ชวนส่องโลกสีลูกกวาดกับรสหวานแห่งวัยเยาว์ ของ The 3rd daughter

Post on 17 August

หอยทากตัดแปะ ภาพกระถางดอกไม้จากดินน้ำมัน และภาพวาดสีไม้สุดน่ารักเหล่านี้ คือผลงานศิลปะที่ชวนให้นึกถึงคาบเรียนศิลปะสมัยเด็ก ๆ ตอนกำลังปั้นดินน้ำมันกับเพื่อนให้เป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ รวมไปถึงการสร้างงานคอลลาจจากเศษกระดาษเหลือ ๆ ซึ่งเจ้าของผลงานที่ปลุกความ Nostalgia ในวัยเยาว์ของเราให้ตื่นขึ้นมานั้น ก็คือ ‘ตาต้า’ หรือ ‘The 3rd daughter’ นั่นเอง

ในฐานะลูกสาวคนที่สามของครอบครัว ผู้เรียนจบจากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และกำลังทำแบรนด์ของตัวเองชื่อว่า ‘the 3rd daughter shop’ กับสตูดิโอทำเล็บ ‘the 3rd daughter nail’ ตาต้าได้นำความชอบส่วนตัวมาสร้างเป็นโลกสีลูกกวาดที่เต็มไปด้วยรสหวานของความเยาว์วัย ซึ่งเชื้อเพลิงที่เธอใช้เป็นพลังในการสร้างโลกใบนี้ขึ้นมา ก็คือแรงบันดาลใจจากศิลปินที่รัก บทเพลงที่ชอบ วรรณกรรมเรื่องโปรด และหนังสือการ์ตูนที่เติมเต็มฝัน เช่น เซ็ทหนังสือของ โรอัลด์ ดาห์ล (Roald Dahl) กับตัวการ์ตูนอย่าง Snoopy และ Miffy เป็นต้น

ตาต้าเริ่มเล่าให้เราฟังว่า “ต้าเป็นคนชอบอะไรที่เป็นสีสันอยู่แล้ว ตั้งแต่การแต่งตัว ของที่ใช้ การ์ตูนที่ชอบดูหรืออ่าน รวมไปถึงศิลปินที่ต้าชื่นชอบและเพลงที่ฟังด้วย ทั้งหมดจะมีความสดใสแล้วก็เป็นเด็กสูงมาก

“ต้ายังมองว่างานที่เราทำเท่ากับรสนิยมในการเสพสิ่งต่าง ๆ ธีมหลักในการสร้างงานศิลปะของต้า ก็เลยเป็นการใช้สีสันสด ๆ และคู่สีที่ตัดกันอย่างชัดเจน แบบ ชมพู-เขียว หรือ ม่วง-เหลือง และการจัดองค์ประกอบสีหลาย ๆ สีให้อยู่ด้วยกันอย่างลงตัวมาใช้ในงาน พร้อมกับครีเอทลายเส้นให้ดูไร้เดียงสาแบบเด็ก ๆ ด้วย

“ต้าคิดว่าการที่ได้ทำงานศิลปะที่แสดงตัวตนของเราออกมา ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่ง ต้าเป็นคนชอบจดบันทึก ชอบวาดอะไรจากสิ่งที่เห็นหรือวาดสิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่พบเจอ และวาดมันออกมาด้วยลายเส้นง่าย ๆ ไม่ต้องเหมือนเป๊ะ แต่พอเข้าใจได้ว่ามันเป็นอะไร ดูจริงใจและไร้เดียงสา เหมือนเวลาที่เด็ก ๆ วาดภาพ ดูน่ารักดีค่ะ” ศิลปินกล่าวเสริม

แต่ถึงแม้จะมีธีมการทำงานที่ชัดเจน แต่เธอกลับไม่เคยคาดหวังเลยว่าผลงานของตัวเองจะสร้างภาพอย่างไรในสายตาของผู้ชม เพราะเธอแค่ต้องการสร้างผลงานที่เป็นเหมือนบันทึกความทรงจำเท่านั้น

“เอาจริง ๆ ต้าไม่เคยคิดเลยว่าคนที่เห็นงานของต้าแล้วจะต้องรู้สึกอะไร เพราะต้าสร้างสรรค์ผลงานจากความชอบส่วนตัว เป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวที่ได้แบ่งปันให้ทุกคนได้ชมผ่านสื่อต่าง ๆ และโปรดักส์ที่ต้าทำ คือมันไม่ได้มีความหมายแฝงหรืออะไรที่ลึกซึ้งเลย

“แต่ถ้าจะให้คิดจริง ๆ ต้าคิดว่าคนที่มาติดตามกันและสนับสนุนผลงานของต้าน่าจะชื่นชอบงานของเรา และ (หวังว่า) มีความสุขเวลาที่ได้เห็น และถ้าเขามองงานของต้าแล้วได้ตกผลึกอะไรบางอย่าง หรือสามารถทำให้คิดถึงเรื่องราวของตัวเองได้ ก็เป็นเรื่องที่ต้ายินดีและดีใจมาก ๆ เลยค่ะ” ตาต้ากล่าว

และไหน ๆ เราก็ได้มีโอกาสได้พูดคุยกันแล้ว เลยอยากให้ศิลปินลองเลือกภาพโปรดของตัวเองขึ้นมาแนะนำเราสักชิ้นว่าเป็นภาพอะไร ซึ่งภาพแรกที่ศิลปินเลือกขึ้นมา ก็คือภาพ ‘หมู่บ้านหอยทาก’ ที่ผสมผสานเทคนิคการวาดภาพระบายสีที่ชวนให้นึกถึงตอนอนุบาลสุด ๆ กับงานคอลลาจ

ตาต้าเล่าอย่างสดใสว่า “เซทนี้คือเรื่องราวของ ‘หมู่บ้านหอยทาก’ ค่ะ เป็นผลงานที่ต้าเพิ่งเริ่มทำในปีนี้ ก็เลยเพิ่งทำได้เพียงสองชิ้น และคิดว่าจะทำต่ออีกหลาย ๆ ชิ้น เพราะชอบมาก 555”

“งานนี้เกิดขึ้นมาจากการที่ต้าชอบรูปร่างของหอยทาก มันดูน่ารัก (เคยคิดอยากจะเลี้ยงด้วยนะ) แล้วก็เกิดตั้งคำถามขึ้นมาในใจว่า หอยทากเวลาโตขึ้นมันไปเปลี่ยนกระดองที่ไหน แบบว่าเราเจอน้องหอยทากบนถนนตลอด รวมถึงสวนในบ้านด้วย แต่กลับไม่เคยเจอเปลือกที่มันจะใช้เปลี่ยนได้ตามพื้นเลย ก็เลยเอาคำถามนี้ไปคุยเล่นกับรุ่นน้องดู พอรุ่นน้องได้ฟังเลยพูดออกมาว่า หรือว่า…มันจะมีหมู่บ้านหอยทาก ซึ่งตอนนั้นเราขำมาก แต่ก็ให้แรงบันดาลใจเรามาก ๆ เหมือนกัน”

“คือเราก็รู้แหละว่ามันไม่จริง แล้วพอค้นหาคำตอบดูก็ปรากฏว่า เปลือกของหอยทากมันโตตามตัว ไม่ต้องเปลี่ยน แต่เราก็ชอบเรื่องนั้นไปแล้ว 555 เลยเป็นที่มาของภาพชุดหมู่บ้านหอยทากนี่แหละ”

ถือว่าเป็นคอนเซปต์ที่น่ารักน่าเอ็นดูมากทีเดียวสำหรับโปรเจกต์หมู่บ้านหอยทาก ที่นอกจากจะคงลายเส้นแบบเด็ก ๆ สุดไร้เดียงสาเอาไว้แล้ว ยังมาจากจินตนาการที่น่าสนใจมากอีกด้วย พอได้ฟังเหตุผลประกอบกับชมผลงานไปด้วยแล้ว ก็ยิ่งชวนให้นึกถึงช่วงเวลาวัยเด็กมากขึ้นไปอีก เพราะพวกเราในตอนนั้นต่างก็ใช้จินตนาการเป็นตัวนำทางและให้คำตอบกับทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกัน และครั้งหนึ่งเราก็คงเคยวาดฝันถึงอาณาจักรอะไรสักอย่างที่คล้ายกับหมู่บ้านหอยทากแบบนี้ แม้ว่าในตอนนี้อาณาจักรเหล่านั้นจะมีคำอธิบายแบบผู้ใหญ่เข้ามาแทนที่ไปหมดแล้ว แต่เชื่อว่าเศษเสี้ยวความเชื่อและความสดใสที่เราเคยมี จะต้องฝังอยู่ที่ไหนสักที่ในตัวเรา เพื่อรอวันที่เราจะนึกถึงขึ้นมาได้อย่างแน่นอน

ภาพนี้เป็นภาพวาดสีอะคริลิกเมื่อปี 2018 ต้าเอารูปที่เคยถ่ายแล้วชอบเมื่อตอนที่ไปอเมริกาครั้งแรกมาวาด เป็นเหมือนบันทึกความทรงจำในตอนนั้น จำได้ว่าตอนนั้นเดินเล่นอยู่ในเมือง แล้วเจอบ้านหลังนี้เปิดอยู่ แล้วเขาก็โละขายของในบ้าน เอาออกมากอง ๆ ไว้เต็มไปหมดเลย ถึงจะดูรก ๆ แต่ก็น่ารักดี เลยเอากล้องดิจิตอลออกมากดถ่ายเก็บไว้ พอกลับมาเปิดรูปที่ถ่ายแล้วเจอรูปนี้ ก็เกิดสนใจมันยังไงไม่รู้เลยหยิบเอามาวาดในแบบของเราดู เราชอบโทนสีในภาพนี้มาก ทำให้รู้สึกสบายใจสบายตา

ภาพนี้เป็นรูป still life ที่เราวาดขึ้นและทดลองเพ้นท์ด้วยสีน้ำมันเป็นภาพแรก ตอนทำสนุกมากและรู้สึกดีใจที่ได้ค้นพบวิธีใหม่ๆในการเพ้นท์รูปทำให้เกิดผิวสัมผัสใหม่ ๆ ไม่ว่าจะให้เลือกรูปที่เคยทำแล้วชอบมากที่สุดอีกกี่ครั้ง ภาพนี้ก็จะยังเป็นหนึ่งในภาพที่ชอบที่สุดของต้าเสมอ

ภาพนี้เป็นโปสเตอร์ที่ต้าทำไว้สำหรับวางขายในแบรนด์ของต้าเอง อย่างที่เล่ามาทั้งหมดเลย คือต้าเปิดร้านขายของออนไลน์ที่วาดและดีไซน์เอง บางอย่างก็เป็นงานแฮนด์เมดและทำงานอันนี้เป็นหลัก การวาดภาพประกอบ หรือการวาดลงบนแคนวาสเลยน้อยลงมาก ๆ จากสมัยก่อนเพราะต้องวาดรูปและออกแบบลายสำหรับโปรดักส์ต่าง ๆ ในร้าน

เจ้าตัวการ์ตูนคาแรกเตอร์เหล่านี้ก็เลยเกิดขึ้นมาจากระหว่างที่ทำร้าน ต้ารักพวกมันมาก ๆ และอยากพัฒนาตัวคาแรกเตอร์หรือออกตัวใหม่ขึ้นมาเพิ่มอีกเรื่อย ๆ เมื่อก่อนต้ากลัวการวาดคาแรกเตอร์อะไรแบบนี้มาก เพราะคิดว่าเราไม่ถนัดแต่พอทำแบรนด์และอยากให้แบรนด์ของเรามีจุดขายที่มองแล้วรู้เลยว่าตัวนี้มาจากร้านเรา ต้าเลยลองวาดน้อง ๆ ขึ้นมาและพัฒนามาเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นน้อง ๆ เหล่านี้มันเลยทำให้เราภูมิใจมาก ๆ เหมือนได้เห็นตัวเองพัฒนาขึ้นด้วยค่ะ

ภาพสุดท้าย ชิ้นนี้เป็นภาพวาด still life อีกหนึ่งชิ้นที่ต้าชอบมาก ๆ คือเวลาที่เราอยากทดลองเทคนิคอะไรสนุก ๆ ต้าจะชอบวาดภาพ still life เพราะมันไม่ต้องคิดเยอะดี จะได้จดจ่อและสนุกไปกับการทดลอง ชิ้นนี้เป็นเทคนิคบีบสีเป็นเส้น ๆ มันเป็นเหมือนกาวสีสำหรับเอาไว้บีบลงบนผ้า เป็นเหมือนอุปกรณ์ศิลปะสำหรับเด็กที่ต้าไปเจอมาในร้านขายเครื่องเขียน ซึ่งพอทำออกมาแล้วชอบมาก ๆ มันได้ผิวสัมผัสที่ต่างออกไป ต้าจะรู้สึกสนุกทุกครั้งเวลาที่ได้ทำอะไรแบบนี้ ลายเส้นจะไม่เป๊ะเลย ขาด ๆ เกิน ๆ บ้างเพราะมันควบคุมยาก แต่ด้วยอะไรแบบนั้นทำให้เรายิ่งชอบตอนที่ภาพมันเสร็จออกมาที่สุดเลย

หากใครที่รู้สึกอยากย้อนกลับไปมองวันวาน และสัมผัสรสหวานแห่งวัยเยาว์กันอีกครั้ง ก็สามารถตามไปชมผลงานต่าง ๆ ของ The 3rd daughter กันได้ที่: https://www.instagram.com/the3rd.daughter/