หลังจากเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาศิลปินไทยสุดป็อปอย่าง กันตภณ เมธีกุล หรือที่แฟน ๆ รู้จักกันในชื่อ ก้องกาน (Gongkan) ได้ไปแสดงผลงานไกลถึงลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เจ้าพ่อแห่งการ teleport อย่างเขาจะกลับมาอวดผลงานศิลปะชุดใหม่ในไทยแลนด์แดนหฤหรรษ์สักที
นิทรรศการ Introspection เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด #souleport ที่มาจากการนำเอาคำว่า ‘soul’ รวมกับ ‘teleport’ เพื่อพาเรากลับไปสำรวจพื้นที่ภายในจิตใจของเขา ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ผ่านภาพตัวแทนอย่างเด็กชายตัวน้อยกับหลุมดำ อันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเขาที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในผลงานของเขา ในครั้งนี้ ก้องกานต้องการจะกลับมาสำรวจตัวเองอย่างลงลึกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะแตกต่างจากผลงานในนิทรรศการ The Tip of the Iceberg ก่อนหน้าที่เน้นพูดถึงสภาพสังคมหรือประเด็นทางการเมืองเป็นส่วนใหญ่ การสำรวจคราวนี้จะพาเราร่วมดำดิ่งลงไปตั้งคำถามต่อสิ่งที่หล่อหลอมให้ก้องกานเป็นก้องกานในทุกวันนี้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การที่เราในฐานะผู้ชมจะได้มองย้อนกลับไปถึงความทรงจำของตัวเองในอดีต และเข้าใจสภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้นในตัวของเราในปัจจุบันได้อย่างดีมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
ในนิทรรศการ Introspection ครั้งนี้ ก้องกานจัดเต็มด้วยผลงานภาพวาดชุดใหม่ที่ถูกแขวนอยู่เต็มกำแพงรอบ ๆ ห้องแสดงผลงานของ Tang Contemporary Art Bangkok อีกทั้งที่บริเวณกลางห้องโถง ยังมีรูปปั้นเด็กชายตั้งสง่า คอยดึงดูดความสนใจของทุกคนอยู่ไม่น้อย นอกจากนั้น ยังมีซุ้มขายของที่ระลึกให้ผู้เข้าชมสามารถมาจับจ่ายซื้อผลงานศิลปะจากลายเส้นของก้องกานกลับบ้านได้
แต่ที่น่าประทับใจที่สุดเห็นจะเป็นกิจกรรมที่ผู้เข้าชมสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการรับบทเป็นเด็กชายตัวน้อยพระเอกของงานได้ผ่านการแสกน QR Code รอบ ๆ นิทรรศการ ซึ่งเจ้าหนุ่มคนนี้จะเป็นตัวแทนของตัวเราเองที่เรากำลังจะก้าวข้ามผ่านบางสิ่งบางอย่างที่เราต้องการ รวมไปถึงสิ่งที่ฉุดรั้งตัวเราไว้อยู่ หากมีโอกาสได้ไปที่นิทรรศการ เราแนะนำให้ทุกคนลองเล่นในพื้นที่เงียบ ๆ เพื่อจะได้ไม่ให้มีอะไรมารบกวนในขณะที่กำลังทำความเข้าใจเบื้องลึกเบื้องหลังภายในจิตใจของตัวเอง แต่ถ้าใครยังไม่วางใจกับสถาณการณ์โควิด-19 และยังไม่พร้อมจะออกนอกบ้าน ก็สามารถจิ้มที่ลิงค์ https://souleport.insidethesandbox.studio แล้วให้เจ้าหนุ่มน้อยคนนี้พาเรากลับไปสำรวจตัวเองได้ง่าย ๆ จากที่บ้าน
เมื่อเดินเข้ามาภายในนิทรรศการ โทนสีของกำแพงด้านในก็เตะตาเราเข้าอย่างจัง เพราะมันถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกันคือ โซนสีขาว และโซนสีดำ ซึ่งในโซนสีขาวนี้ ก้องกานก็ชวนให้เราออกเดินทางไปพร้อม ๆ กันด้วยการตั้งคำถามถึงอดีตแล้วนำมาเปรียบเทียบกับปัจจุบัน และมองไปถึงอนาคตผ่านผลงานศิลปะ
“...ตอนเด็ก ๆ แค่ได้ดูการ์ตูน หรือกินหมูปิ้งก็มีความสุขแล้ว แต่ทำไมพอโตขึ้น ความรู้เหล่านั้นกลับไม่เหมือนกับตอนเป็นเด็กล่ะ?”
เดินถัดมาอีกนิดเราก็จะได้พบกับรูปปั้นเด็กหนุ่มตัวน้อยที่กำลังตั้งเด่นอยู่กลางห้องโถงจัดแสดงงาน ด้วยความมันวาววิบวับตาจากกระจกที่คอยทำหน้าที่สะท้อนใบหน้าและบรรยากาศภายในงาน ทำให้เราต้องเดินเข้าไปดูรายละเอียดของผลงานนี้กันใกล้ ๆ ผลงานชิ้นนี้พูดถึงอดีตที่กำลังโอบอุ้มเจ้าหนุ่มน้อยคนนี้เอาไว้ ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ทะลุออกมาจากกระจกก็เป็นเหมือนภาพแทนสิ่งที่สะท้อนตัวตนของเขาในตอนนี้เช่นเดียวกัน
และด้วยกิมมิคกระจกสะท้อนของผลงานชิ้นนี้ ใครที่มางานเข้าชมนิทรรศการแล้วอยากที่จะมีรูปเก๋ ๆ เป็นที่ระลึกอวดชาวโซเชียลก็สามารถมาลองถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน ๆ หรือคู่เดทที่ตรงนี้ได้เลย
เดินทางกันต่อที่โซนสีดำ เมื่อก้าวเข้าไป เราก็จะถูกอ้อมล้อมด้วยโทนสีเข้ม ๆ ที่ทำให้ผลงานต่าง ๆ บนกำแพงดูโดดเด่นขึ้นด้วยตัวของมันเอง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนเดิมคือการนำเสนอเรื่องราวของสิ่งที่เราอยากจะเป็น ซึ่งภายในจิตใจของมนุษย์เองก็มักจะมีความขัดแย้งกันระหว่างตัวตนในโลกแห่งความเป็นจริงกับตัวตนในแบบที่อยากเป็น ถึงแม้ว่าในตอนนี้ ตัวเราจะยังไม่ได้เป็นไปตามอย่างที่คาดหวัง แต่สักวันหนึ่ง ตัวเราในแบบที่เคยนึกคิดเอาไว้ก็สามารถเป็นจริงขึ้นมาได้ ถ้าเราแน่วแน่กับมัน
ผลงาน The Feeling คือชิ้นที่เราประทับใจที่สุดในนิทรรศการครั้งนี้เลย มันนำเสนอภาพของมนุษย์ทุกคนที่ล้วนมีทั้งอารมณ์สุขและอารมณ์ทุกข์ปะปนกันไป เพียงแต่ว่าอารมณ์สองขั้วเหล่านั้น อารมณ์ขั้วไหนจะแสดงตัวขึ้นมาโดดเด่นกว่ากันในแต่ละวัน มนุษย์เป็นสิ่งที่ซับซ้อนทางความคิดและทางความรู้สึก เราไม่จำเป็นจะต้องเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างแบบครบถ้วน ขอแค่เราตระหนักรู้ต่ออารมณ์ของตัวเองก็เพียงพอแล้ว
‘ของที่ระลึกจากหลุมดำ’
อย่างที่บอกไปว่า ในนิทรรศการครั้งนี้ เราสามารถรับบทเป็นเด็กหนุ่มตัวน้อยแห่งห้วงหลุมดำได้ผ่านการแสกน QR Code ด้วยโทรศัพท์มือถือส่วนตัวที่จะพาเราออกไปสำรวจดินแดนแห่งสีสันและห้วงหลุมดำ ซึ่งเมื่อหนุ่มน้อยคนนี้ได้ออกสำรวจตัวเองเสร็จแล้ว ก็จะมีการ์ดใบหนึ่งปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ซึ่งการ์ดที่แต่ละคนได้รับนั้นก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราได้ตอบไปก่อนหน้านี้ การ์ดเหล่านี้ถือเป็นของขวัญจากการได้พูดคุยและกลับมาอยู่กับตัวเองมากขึ้น หากได้รับมาแล้วเรียบร้อยก็อย่าลืมเก็บการ์ดเหล่านั้นไว้ในก้นบึ้งของจิตใจเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจในวันหน้าด้วยล่ะ
ส่วนใครที่ไม่สะดวกจะไปเข้าชมงานนิทรรศการ Introspection ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะก้องกานเขาใจดี เปิดให้ทุกคนเข้าไปร่วมออกเดินทางไปพร้อม ๆ กันจากทางบ้านได้ที่:
https://souleport.insidethesandbox.studio
*อย่าลืมเปิดเสียงเพลงระหว่างเล่นเพื่ออรรถรสที่ครบถ้วน
นิทรรศการ Introspection โดยก้องกาน จัดแสดงตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2564 ที่ Tang Contemporary Art Bangkok ชั้น 2 River City Bangkok เปิดบริการทุกวันยกเว้นวันจันทร์ เวลา 11.00 - 19.00 น.
ฤดูหนาวปีนี้ก็อย่าลืมชวนตัวเองกลับไปสำรวจจิตใจกันบ้างนะ
Introspection - Gongkan Solo Exhibition
วันนี้ - 12 ธันวาคม 2564
Tang Contemporary Art Bangkok
ชั้น 2 River City Bangkok
เปิดให้บริการทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) 11.00 - 19.00 น.
- Facebook: https://www.facebook.com/TangContemporaryArtBangkok
- Instagram: https://www.instagram.com/tangcontemporaryart/
ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก:
Tang Contemporary Art, Gongkan