“การออกแบบคืออะไร?” คำถามนี้ยังคงเป็นคำถามปลายเปิดที่หาคำตอบตายตัวได้ไม่ง่ายนัก แต่ถ้าถามว่า “อยากจะเล่าเรื่องอะไร?” บทสนทนาที่เคยเริ่มต้นไม่ง่าย ก็น่าจะเปลี่ยนเป็นการพูดคุยอันแสนยาวนานได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คิด
ข้อความข้างต้นคงเป็นข้อสรุปสั้น ๆ ที่เราพยายามออกแบบมาให้ฟังดูกระชับมากที่สุด เพื่ออธิบายถึงบรรยากาศในห้องเรียน ‘Leave your mark 03’ จาก ‘PRACTICAL School of design’ คอร์สการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการระยะสั้นสำหรับคนที่อยากออกแบบอะไรสักอย่างให้เป็นรูปเป็นร่างดูสักที ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อายุเท่าไร เรียนจบด้านไหน ก็สามารถเข้าเรียนคลาสนี้ได้อย่างเข้าใจโดยไม่มีช่องว่างระหว่างกัน
ด้วยคำเชิญชวนที่ว่านี้ ก็ทำให้ช่วงบ่ายวันหนึ่งของกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา คนแปลกหน้า 11 คนผู้อยากลองออกแบบอะไรดูสักอย่าง ก็ได้มารวมตัวกันที่ร้าน ‘Mana Craft’ เพื่อเรียนรู้เรื่องการออกแบบร่วมกันตลอดสี่อาทิตย์ และถ้าคุณกำลังคิดว่าพวกเขาทั้งหมดจะต้องเรียนแต่ทฤษฏีการออกแบบ เรียนวาดภาพหรือฝึกทำงานศิลปะอะไรสักอย่างอยู่ล่ะก็ ก็คงต้องบอกเลยว่า ‘ไม่ใช่’ เพราะวิธีการเรียนรู้ทั้งหมดในห้องเรียนนี้เริ่มต้นจากบทสนทนาประจำวันง่าย ๆ อย่าง “คุณมีอะไรที่ยังไม่เคยทำหรือเปล่า?” ต่างหาก
Leave your mark 03 จึงไม่ได้เป็นเพียงห้องเรียน แต่ยังเป็นห้องสนทนาสุดพิเศษที่รวมผู้คนจากต่างศาสตร์ ต่างประสบการณ์มาทำความรู้จักตัวตนของตัวเอง และในขณะเดียวกันพวกเขาก็ยังช่วยกันและกันไขกุญแจสู่ความมุ่งหมายของคนอื่นไปพร้อม ๆ กันด้วย ซึ่งในฐานะที่ GroundControl มีโอกาสร่วมเรียนในคลาสนี้ด้วยเลยถือโอกาสเก็บรวบรวมประสบการณ์ที่พบเจอตลอดทั้งสี่สัปดาห์กลับมาแชร์ให้ทุกคนได้ฟัง พร้อมพาไปสำรวจกระบวนการทำงานของแต่ละคน และปิดท้ายด้วยการพาทัวร์นิทรรศการ ‘Leave your mark 03 Exhibition’ แบบย้อนหลัง ให้รู้จักผลงานของผู้เรียนทั้ง 11 คน ผู้ลอง ‘Leave’ รอย ‘Mark’ ของตัวเองเอาไว้อย่างตั้งใจไปด้วยเสียเลย ตามมาดูกันเลยดีกว่า!
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/975711361e052de48eaf22c4e3190349.jpg)
ลอง ‘Leave’ ตัวตน
“กรุณาเตรียม Portfolio ของตัวเองให้กับพวกเราด้วยนะคะ” คือโจทย์ข้อแรกที่ ‘PRACTICAL School of design’ มอบให้กับผู้เข้าเรียน ‘Leave your mark 03’ แม้จะชวนสงสัยในคราวแรก แต่เมื่อได้เข้าไปนั่งเรียนในห้องพร้อมกันจริง ๆ แล้วก็พบว่าสิ่งนี้สำคัญมาก เพราะก่อนที่เราจะรู้ว่าตัวเองอยาก ‘Leave’ อะไร ก็ต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าเคยอยู่ตรงจุดไหนกันมาบ้าง
การได้นั่งฟังประวัติความเป็นมาและชมความถนัดของเพื่อนร่วมชั้นเรียนแต่ละคน ก็ทำให้ค้นพบว่าในห้องเรียนนี้มีคนมาจากหลากหลายสาขาอาชีพจริง ๆ ทั้ง นักออกแบบ, นักเขียน, นักวาดภาพประกอบอิสระ, คนที่เรียนด้านวิศวกรรม, คนที่เรียนด้านจิตวิทยา, คนที่เรียนด้านกฏหมายและเคยเป็นอดีตนักการทูต ไปจนถึงเด็กน้อยอายุเจ็ดขวบเท่านั้นเอง เรียกว่าถ้าเปรียบห้องเรียนนี้ให้กลายเป็นเมนูน้ำปั่น คนก็อาจจะคิดว่าไม่เข้ากันจนกว่าจะได้ลองเอามาผสมกันดูจริง ๆ ซึ่งหลังจากได้ลองลิ้มชิมบรรยากาศในวันนั้นด้วยตัวเองดูแล้ว ก็ต้องบอกว่าเมนูนี้อร่อยมาก เพราะความแตกต่างทางประสบการณ์และการใช้ชีวิตของแต่ละคน สามารถช่วยเติมเต็มความไม่รู้ของคนอื่น ๆ อีกหลายคนได้อย่างพอดิบพอดี
การ ‘สำรวจตัวเอง’ ของคนในคลาสจึงเริ่มต้นด้วยบทสนทนาง่าย ๆ แบบนั้น แต่ภายในระยะเวลาไม่นาน บทสนทนาระหว่างคนที่เพิ่งรู้จักกันก็สามารถต่อเนื่องและลื่นไหลได้อย่างรวดเร็วจนน่าแปลกใจ และกว่าจะรู้ตัวอีกทีแต่ละคนก็คงค้นพบแล้วว่า ในขณะที่เราคิดว่าไม่มีอะไรอยากทำหรืออยากแก้ไข แต่จริง ๆ แล้วพวกเรามีไอเดียเหล่านั้นมากมายเพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้ลองทำเท่านั้นเอง
จากตรงนี้ การสำรวจตัวตนว่าเราเป็นใคร อยากทำอะไร ไม่อยากทำอะไร อยากลองทำเรื่องไหน และมีอะไรติดค้างอยู่บ้าง พร้อมกับทำความรู้จักศิลปินที่มีอะไรคล้าย ๆ เราและนำสิ่งที่ว่านั้นไปดัดแปลงเป็นงานอะไรสักอย่างในวันนั้น ก็เลยเป็นฟอร์มแรกของคำว่า ‘หาไอเดีย’ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแรก ๆ ของการออกแบบ แน่นอนว่าเพื่อนร่วมชั้นหลาย ๆ คน (รวมถึงตัวเรา) ในวันนั้นคงยังไม่รู้ว่า การพูดคุยธรรมดา ๆ และการสำรวจกันและกันของพวกเราในวันนั้น แท้จริงแล้วเป็นการก้าวขาข้างหนึ่งสู่เส้นทางการออกแบบ ที่แต่ละคนต่างก็เริ่มออกสตาร์ทกันมาตั้งนานแล้วโดยที่ไม่เคยรู้ตัวเลย
สามารถอ่านบันทึกการเรียนครั้งที่หนึ่งอย่างละเอียดได้ที่: https://www.practicalschoolofdesign.com/leave-your-mark-03-2024-class-note-1/
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/67300a6f557e98eeb3ec96afdcea4131.jpg)
กระเทาะเปลือกให้เป็นคอนเซปต์
ห้องเรียน ‘Leave your mark 03’ ยังคงมีบทสนทนาเป็นพระเอกหลัก และหลังจากเริ่มสำรวจตัวตนในคลาสแรกผ่านไปแล้ว ก็ถึงเวลาของการกระเทาะเปลือกให้กับไอเดียฟุ้ง ๆ ของทุกคนให้กลายเป็นรูปเป็นร่าง บทสนทนาในครั้งที่สองจึงเป็นเรื่องราวที่ลึกซึ้งขึ้นกว่าครั้งแรก เพราะเราต่างมีเรื่องราวของตัวเองที่อยากเล่ากันออกมา โดยความน่าสนใจในครั้งนี้คือการที่ทุกคนมาพร้อมกับสิ่งที่อยากทำกันเต็มมือ และเรื่องราวของแต่ละคนก็ไม่มีใครซ้ำใครเลย
บางคนก็มาพร้อมกับเรื่องราวส่วนตัวที่อยากจะถ่ายทอดออกมาเป็นชิ้นงาน บางคนก็ได้ไอเดียมาจากนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนเพอร์เฟกต์ชันนิสต์ บางคนก็มาพร้อมกับความรู้สึกตรงกันข้ามกับชีวิตประจำวัน เช่น จากเดิมเป็นคนชอบทำอะไรซับซ้อน ก็อยากเปลี่ยนเป็นทำในเรื่องราวที่ตรงกันข้ามกับตัวเองไปเลย เป็นต้น พอผลของการหาไอเดียออกมาหลากหลายแนวทางแบบนี้ บทสนทนาในครั้งที่สองจึงออกรสออกชาติมากเป็นพิเศษ เพราะทุกคนต่างช่วยกันเสนอความเห็นและมุมมองของตัวเองที่มีต่อแนวคิดของเพื่อนร่วมคลาส เพราะทุกคนทราบกันดีว่าในพื้นที่นี้ไม่มีคำว่าผิดหรือถูก มีแต่คำว่า “ลองดูเถอะ” ให้ได้เก็บความเป็นไปได้กลับไปลองทำด้วยตัวเอง ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงได้เข้าสู่ขั้นตอนต่อมาของการออกแบบโดยไม่รู้ตัวอีกครั้งว่า “ถึงเวลาของการทดลองทำแล้ว”
สามารถอ่านบันทึกการเรียนครั้งที่สองอย่างละเอียดได้ที่:https://www.practicalschoolofdesign.com/leave-your-mark-03-2024-class-note-2/
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/3ce4e42daac4790a94b5ff6c03605a06.jpg)
ถึงเวลาสร้างรอย ‘Mark’
รู้ตัวอีกทีจากคำว่า “ไม่รู้เลยว่าเราจะทำอะไรดี” หรือ “เราจะมีอะไรไปจัดแสดงจริง ๆ หรือ” ของเพื่อนร่วมชั้นเรียนหลาย ๆ คน ก็เปลี่ยนเป็นชิ้นงานที่นำมาวางกันเต็มโต๊ะไปหมดแล้ว และนั่นคือภาพจำเกี่ยวกับบรรยากาศในคลาสเรียนครั้งที่สามของ ‘Leave your mark 03’ ในความทรงจำของเรา
อาจจะเพราะบรรยากาศที่กระตุ้นให้พวกเราแอคทีฟ หรือจริง ๆ แล้วอาจจะเป็นเพราะตัวตนของแต่ละคนเองที่อยากจะทำมันอย่างตั้งใจมากกว่า ทำให้วันนำเสนอผลงานเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งความกังวลขั้นต่อมาที่ทุกคนรู้สึกกันกลับไม่ใช่ตัวชิ้นงานอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของการ ‘ติดตั้ง’ เพราะภารกิจครั้งสำคัญที่พวกเราต้องมุ่งหน้ากันต่อไป ก็คือการรับฟังเสียงจากคนภายนอกห้องเรียนบ้างนั่นเอง
และโดยไม่รู้ตัวอีกครั้ง หลังจากที่พวกเราเฝ้าคิดกันว่าจะติดตั้งมันออกมาอย่างไร หัวใจหลักของการคิดครั้งนี้ก็คือ “จะเล่า” เรื่องราวของตัวเองออกมาแบบไหนให้คนอื่นเข้าใจมากกว่า ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่งานออกแบบจะขาดไปไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ออกแบบให้ตัวเองเข้าใจเพียงคนเดียว แต่คนอื่นก็ต้องเข้าใจในสิ่งที่เราอยากบอกด้วย การสื่อสารนั้นถึงจะสัมฤทธิ์ผล การพยายามสร้างรอย ‘Mark’ ของทุกคนในครั้งนี้ แท้จริงแล้วจึงเป็นการทำให้ร่องรอยเหล่านั้นมีรูปแบบที่ชัดเจนมากพอที่คนอื่นจะเข้าใจไปกับเราด้วยให้ได้ตามไปด้วย
สามารถอ่านบันทึกการเรียนครั้งที่สามอย่างละเอียดได้ที่:https://www.practicalschoolofdesign.com/leave-your-mark-03-2024-class-note-3/
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/e5158d0b653e166073d90dd13db6a6ab.jpg)
ปักหมุดร่องรอยลงความทรงจำ ใน ‘Leave your mark 03 Exhibition’
ช่วงสายของวันเสาร์ที่ 9 มีนาคม ก็ถึงเวลาที่ความพยายามของทุกคนออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ผลงานของทุกคนได้ถูกจัดวางเอาไว้ยังที่ทางที่ตั้งใจ และหลังจากผ่านพาร์ทของการเสวนาหัวข้อ PS±D Talk Series
EVERYTHING EVERY DESIGN เรื่องเล่าของการออกแบบจากหนังสือ HOW DESIGN MAKES THE WORLD โดย Scott Berkun เรียบร้อยแล้ว ในช่วงบ่ายก็ถึงเวลาการนำเสนอผลงานอันน่าตื่นเต้นของทุกคน
เริ่มต้นกันที่ผลงาน ‘Our House, it’s a very very very fine house.’ ของ ‘สันติ ลอรัชวี’ หรือที่รู้จักกันในนามอาจารย์ติ๊ก ที่หยิบยกเรื่องของพ่อกับตัวเองที่มักมีความไม่ลงรอยอะไรบางอย่างอยู่เสมอ โดยเฉพาะประโยคที่ได้ยินประจำอย่าง “ฟังก่อนซี่” ที่ยิ่งได้ยินก็ยิ่งไม่อยากหยุดฟัง ซึ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเรื่อย ๆ ในระหว่างลงมือทำ ‘บล็อกสกรีน’ ที่ต้องอาศัยความสมดุลหลาย ๆ อย่าง การ ‘Leave’ ของอาจารย์ติ๊ก เลยเป็นการกลับไปลองฟังสิ่งที่พ่อของอาจารย์อยากจะบอก ผ่านการทำเป็นสารคดี ซึ่งเป็นการออกแบบการสื่อสารระหว่างเขากับพ่อขึ้นมาใหม่ให้เป็นร่องรอยที่น่าจดจำ จึงมีการจัดแสดงในรูปแบบศิลปะจัดวาง ที่มีวีดิทัศน์สารคดีและบล็อกสกรีนให้เราได้สำรวจเรื่องราวของเขากัน
![_**Highlight (2024) โดย เบญจรัตน์ เอี่ยมรัตน์**_](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/f9ee4100c11003b5ac9567edf3df45ce.jpg)
Highlight (2024) โดย เบญจรัตน์ เอี่ยมรัตน์
ผลงานชิ้นถัดมาคือ ‘Highlight (2024)’ ผลงานของ ‘เบญจรัตน์ เอี่ยมรัตน์’ ที่ออกตัวมาตลอดว่าเป็นคนชอบคิดอะไรซับซ้อนมาก ๆ และเวลาลงมือทำอะไรก็มักจะทำสิ่งที่มีความยากสูงอยู่เสมอ การ ‘Leave’ ของเบญ จึงเป็นการทำอะไรแบบไม่ต้องคิดเยอะ หรือหาความหมายให้ปวดหัวมากอีกต่อไป และไอเดียที่ว่านั้นก็ได้กลายมาเป็นภาพวาดสิ่งของใส ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ โดยเธอได้เลือกใช้สีชอล์กน้ำมันสะท้อนแสง (Fluorescent Oil Pastels) ที่ไม่ค่อยถนัดมาลองลงมือวาดดู ร่องรอยที่เราเห็นบนงานชิ้นนี้ เลยเป็นร่องรอยแห่งความสุขที่เธอได้มองเห็น ณ เวลาที่วาดนั่นเอง
![_**'2024' โดย ศุภากร กะตะศิลา**_](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/9d631e6bf1f9fa218c4d890b4d7ad1e4.jpg)
'2024' โดย ศุภากร กะตะศิลา
เชื่อว่าใคร ๆ ต่างก็เคยมีลิสต์ที่อยากทำมากมายในหัว เหมือนกับ ‘ศุภากร กะตะศิลา’ เขาได้ออกตัวว่าเป็นคนที่ชอบจดบันทึกสิ่งที่อยากทำอยู่ตลอด แต่ก็ไม่เคยลงมือทำได้สักที และการเลือกเข้าร่วมชั้นเรียนในครั้งนี้ ก็นับว่าเป็นการ ‘Leave’ อย่างหนึ่งของเขาแล้ว ความผูกพันธ์กับเดดไลน์ เวลา ตาราง และลิสต์กิจกรรมที่อยากทำยาวเป็นหางว่าว ทำให้เขาเลือกถ่ายทอดความรู้สึกเหล่านั้นออกมาเป็น ‘2024’ ปฏิทินที่ศุภากรออกแบบ Typography ให้แต่ละวันขึ้นมาเอง และตรงข้ามกับการที่บอกว่าเขาเป็นคนลงมือทำอะไรได้น้อยกว่าสิ่งที่อยากทำ เพราะเหมือนว่าทั้งนิทรรศการนี้ ผลงานของศุภากรจะมีจำนวนชิ้นมากที่สุด และเป็นร่องรอยที่มองเห็นได้ชัดเจนจากทุกคนเลยทีเดียว
![_**‘( - )’ โดย พนัสดา วิไลเลิศพงศ์พันธ์**_](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/4cda2be158739aaa768e10e8a8346e2c.jpg)
‘( - )’ โดย พนัสดา วิไลเลิศพงศ์พันธ์
เพอร์เฟคชันนิสต์เป็นได้ทั้งของขวัญและบทลงโทษ เพราะการที่เราชอบทำอะไรให้เป๊ะตลอดเวลา หมายความว่าผลงานของเราจะต้องดีมาก แต่ในขณะเดียวกัน มันอาจเป็นการกดดันให้เราต้องเหนื่อยยากและลำบากกว่าคนอื่น ‘พนัสดา วิไลเลิศพงศ์พันธ์’ ก็เป็นคนที่ยึดติดตัวเองเข้ากับความเพอร์เฟคอยู่เสมอ ชนิดที่ว่าถ้างานออกมาไม่ดีเธอก็จะไม่กล้าให้ใครดู การตัดสินใจ ‘Leave’ ของเธอ เลยเป็นการกล้าที่จะ ‘ลบ’ และเหลือร่องรอยความผิดพลาดของตัวเองเอาไว้อย่างไม่อาย จนกลายมาเป็น ‘( - )’ ผลงานที่มองเห็นร่องรอยการลบหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการทำเป็นตัวหนังสือที่ตั้งใจเขียนให้ไม่ผิด แต่ถึงจะผิดก็ไม่เป็นไรอีกต่อไปแล้วเช่นกัน นอกจากนี้เธอยังทำการเพอร์ฟอร์มานซ์ในวันเปิดเพื่อเขียนถ้อยความว่าจะไม่ทำผิดพลาดต่อหน้าทุกคนด้วย
![_** ‘Work in Progress’ โดย ปุณยาพร ยิ้มเศรษฐี**_](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/4a17a4d54fe98842cb7245ca80cd0d06.jpg)
** ‘Work in Progress’ โดย ปุณยาพร ยิ้มเศรษฐี**
ภาพนามธรรมชิ้นหนึ่งกับสีสันสด ๆ และโน้ตเพลง คือ ‘Work in Progress’ ผลงานที่เกิดจากการกลั่นกรองมาอย่างดีของ ‘ปุณยาพร ยิ้มเศรษฐี’ อดีตนักเรียนกฎหมาย เคยทำงานด้านการทูต และปัจจุบันเป็นนักธุรกิจดูแลแบรนด์เครื่องเสียงนำเข้า เธอมีความคิดอยากจะเรียนด้านศิลปะ และเกือบจะได้เรียนแล้ว เพียงแต่ต้องถอนตัวกลางคันจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เธอยังค้นพบว่าตัวเองมีความผูกพันกับศิลปะและดนตรีมากกว่าที่คิด และการได้เข้ามาเรียนใน Leave your mark 03 ก็ทำให้เธอเลือก ‘Leave’ ด้วยการทำสิ่งที่เธอเคยทิ้งมาแล้วให้เป็นร่องรอยครั้งใหม่ อันเกิดจากการปล่อยให้ตัวเองได้เผชิญกับคำถามส่วนตัว ยอมให้ตัวเองอ่อนแอ ปล่อยให้ตัวเองได้แสดงความรู้สึก และเลือกสิ่งที่เติมเต็มตัวตนได้อย่างแท้จริง
![_**‘Speech’ โดย ชิตวัน เพชรรัตน์**_](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/f195c0fd9f85b41b49b63fc044b4045d.jpg)
‘Speech’ โดย ชิตวัน เพชรรัตน์
ข้าง ๆ กันคือ ‘Speech’ ผลงานของ ‘ชิตวัน เพชรรัตน์’ ที่เริ่มต้นจากการมองย้อนกลับไปว่างานศิลปะและการออกแบบเป็นอะไรสำหรับตัวเอง แล้วก็พบว่ามันคือวิธีการที่เธอใช้ ‘พูด’ เป็นตัวกลางในการส่งสารระหว่างเธอไปถึงคนอื่นเธอเลยตั้งใจทำทุกงานให้มีความหมายจนกลายเป็นกับดักในการทำงาน เธอจึงอยากก้าวข้ามในจุดนี้ ด้วยการลองโฟกัสไปที่สีสันเพียงอย่างเดียวดูบ้าง เพราะแม้ว่าจะยังไม่ถูกผูกกับความหมายอะไร แต่สีก็ส่งสารบางอย่างให้เธอรู้สึกถึงอะไรบางอย่างได้ด้วยตัวมันเอง และนั่นก็เป็นวิธีพูดแบบหนึ่งเช่นเดียวกัน
![_**‘Landscape of eternity’ โดย ลลิตา กิจจาชาญชัยกุล**_](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/ccae385d59cd6e09b28dc0415629a8dc.jpg)
‘Landscape of eternity’ โดย ลลิตา กิจจาชาญชัยกุล
ผลงานของ ‘ลลิตา กิจจาชาญชัยกุล’ ชื่อ ‘Landscape of eternity’ ก็เป็นผลงานที่ทุกคนลงความเห็นว่าละมุนใจ สมกับที่เธออธิบายว่ามีศิลปะเป็นสถานพักใจที่คอยปลอบประโลมกันและกันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกแตกสลายมากแค่ไหนก็ตาม งานของเธอคือการใช้ดินสอกดสีน้ำเงินในการวาดภาพวิวทิวทัศน์อย่างบรรจงบนกระดาษหลากหลายแบบ เช่น กระดาษไข และโคมไฟ เป็นต้น เธอมองว่าการได้วาดภาพเหล่านี้เป็นวิธีการที่เธอได้อนุญาตให้ตัวเองรู้สึก และร่วมมีประสบการณ์กับมวลความรู้สึกเหล่านั้นได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยเธอได้ออกแบบการจัดวางให้ผู้ชมสามารถใช้เวลาเดินดูงานของตัวเองได้อย่างรอบด้าน
![_**‘คำ ที่อยากได้ยิน’ โดย ปรียานุช งามโรจนวณิชย์**_](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/ceae319ba47c676ffc0ad8eea57111c6.jpg)
‘คำ ที่อยากได้ยิน’ โดย ปรียานุช งามโรจนวณิชย์
ถัดจากผลงานของลลิตาไม่ไกล ก็ยังมี ‘คำ ที่อยากได้ยิน’ ผลงานของ ‘ปรียานุช งามโรจนวณิชย์’ วางอยู่ ประกอบไปด้วยถุงขยะสีดำ เก้าอี้ตัวเล็ก ๆ กระดาษโน้ต และปากกาหลากสีที่แค่มองก็รู้ว่าเธอต้องการให้ผู้เข้าชมได้ลองมาขีดเขียนอะไรบางอย่างร่วมกับเธอ ซึ่งการขีดเขียนที่ว่านี้ก็มาจากการที่เธอตั้งโจทย์กับตัวเองว่า อยากเห็นตัวเองในแบบที่ไม่เคยเห็น ทำให้เกิดไอเดียเต็มไปหมด แต่สิ่งที่เด่นชัด คือ ‘ความคิดลบ (Negative Thoughts)’ เธอจึงเอามาทำเป็นงานชิ้นนี้ โดยถุงดำคือตัวแทนความคิดมากมายของเธอที่เป็นดั่งขยะที่แบกไปไหนมาไหนด้วยตลอด เธอเลยอยากหรี่เสียงที่ว่านี้ลงด้วยการ ‘แปะ’ คำที่อยากได้ยินทับมันลงไปแทน เพื่อเป็นร่องรอยของการขยับออกจากความคิดแบบเดิม
![_**‘House of Dream’ โดย ณิชา จิรธนานันท์**_](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/a5b969c57f797556452c400cc5960c9b.jpg)
‘House of Dream’ โดย ณิชา จิรธนานันท์
ต่อด้วยผลงานของ ‘ณิชา จิรธนานันท์’ อย่าง ‘House of Dream’ ที่เปรียบเทียบความฝันของตัวเองเข้ากับการจัดบ้าน เธอมองว่าชีวิตนั้นเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง เต็มไปด้วยอารมณ์ เต็มไปด้วยความทรงจำ และที่สำคัญที่สุดคือเต็มไปด้วยความฝัน งานชุดนี้จึงนำเสนอผ่านกล่องกระดาษลังแห่งความฝัน แยกเป็นความฝันที่มีในแต่ละช่วงของชีวิต เช่น ความฝันของนักประดิษฐ์ ความฝันของนักรัก ความฝันของนักดนตรี แต่ละกล่องใส่ของที่ใช้เพื่อทำตามความฝันนั้น ๆ ให้ผู้เข้าชมสามารถลองมาคุ้ย หาของ ดูว่ามีอะไรบ้าง โดยของทั้งหมดนี้ตอนจบนิทรรศการจะถูกเก็บเข้าลัง เพื่อเป็นการเก็บพับความฝันที่ไม่ได้มีเวลาทำไว้ในตู้เก็บของ เพื่อให้บ้านมีพื้นที่ให้กับความฝันใหม่ ๆ วันนึงที่เธอกลับมามีพื้นที่ให้กับความฝันเหล่านี้ กล่องเหล่านั้นก็จะถูกเปิดออกมาอีกครั้ง
![_**‘Mana First Project’ โดย มานะ เดชะ**_](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/ebbc33b5f501c44422f0670502b3fd17.jpg)
‘Mana First Project’ โดย มานะ เดชะ
ยังมีผลงาน ‘Mana First Project’ ของ ‘มานะ เดชะ’ น้องเล็กของห้องที่มีอายุเพียงเจ็ดขวบเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่น้องมานะอยากจะ ‘Leave’ ก็คือการออกจากกรอบการทำงานแบบเดิม ๆ มาลองใช้สีที่แตกต่าง วาดบนกระดาษที่แปลกไป รวมถึงการลองจับแคนวาสที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม เรียกได้ว่าตลอดทั้งสี่สัปดาห์ของการเรียน คนที่ขยันสร้างงานมากที่สุด คงไม่พ้นน้องมานะที่กระตุ้นให้พี่ ๆ ไม่ย่อท้อต่อการทำงานของตัวเองไปด้วยกัน
![_**'การหนีออกจากบ้านของแมวโชค' โดย บงกชกร คำปุ๊ก**_](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/4a6a9b087aabc0ee2a5df74e5efc1825.jpg)
'การหนีออกจากบ้านของแมวโชค' โดย บงกชกร คำปุ๊ก
และปิดท้ายด้วยงานของเรา (นักเขียนคนนี้) เอง ที่ต้องการพูดถึงเรื่องความทรงจำ ความตาย การเกิดใหม่ และการจดจำ โดยมีเสียงในรูปแบบต่าง ๆ เข้ามาเป็นสื่อกลางระหว่างตัวเรากับผู้ชม โดยมาจากเรื่องราวของ ‘โชค’ แมวข้างบ้านที่เราอนุมานว่าเขาได้หนีออกจากบ้านมาอย่างมีแผน แต่ก่อนที่จะได้เขียนถึงโชคด้วยตอนจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง เราก็ต้องสูญเสียเขาไปเสียก่อน จึงเป็นที่มาของผลงาน ‘การหนีออกจากบ้านของแมวโชค’ ที่จัดแสดงในครั้งนี้ในรูปแบบของวิดีโอ เพอร์ฟอร์แมนซ์ และงานเขียนบทแรกของหนังสือในชื่อเดียวกัน โดยส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจก็มาจากการไม่กล้าพูดถึงเรื่องนี้ ที่นำไปสู่การพยายาม ‘Leave’ และทิ้งรอย ‘Mark’ เอาไว้ในรูปแบบหนังสือนิยาย (ที่ยังไม่จบ) บนความทรงจำของทุกคนแทน
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/a12852480dbea46b8986ce6a2f4c2c2a.jpg)
บทบาทของ ‘Note Taker’ ที่เป็นมากกว่าคนจดบันทึก
การมี ‘Note Taker’ ถือเป็นหนึ่งในสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า ห้องเรียน ‘Leave your mark 03’ จาก ‘PRACTICAL School of design’ รวมถึงห้องเรียนอื่น ๆ ของพวกเขามีบทสนทนาเป็นเครื่องนำทางหลัก การที่ได้คุณ ‘หนูนา - พนิดา วสุธาพิทักษ์’ มาทำหน้าที่บันทึกทุกอย่างที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เพียงการจดโน้ตทั่วไป แต่ยังเป็นการบันทึกบรรยากาศ กระบวนการความคิด และความรู้สึกของทุกคนเอาไว้อย่างครบถ้วน ราวกับเป็นบทสรุปขนาดสั้นที่สามารถบอกขอบเขตการเรียนรู้ในแต่ละครั้งได้อย่างชัดเจน ดังนั้นทุกคนจึงสามารถพูดคุยทุกอย่างได้อย่างสบายใจ และสามารถย้อนกลับมาทบทวนทุกอย่างได้ง่ายมากขึ้น
เหมือนกับในตอนนี้ที่เราได้สลับบทบาทจากผู้เรียนกลับมาเป็นนักเขียนอีกครั้ง และได้ลองย้อนกลับไปบันทึกเรื่องราวทุกอย่างไว้อีกชั้นหนึ่งด้วยตัวเอง ทำให้เราค้นพบว่า ท่ามกลางบทสนทนาที่ดูธรรมดาและเรียบง่ายตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับเต็มไปด้วยร่องรอยการเรียนรู้ที่ค่อย ๆ ปรับให้ทุกคนในห้องเข้าใกล้คำว่า ‘เข้าใจ’ ในเรื่องของการออกแบบได้อย่างเป็นธรรมชาติ จนสามารถถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเอง และคนที่ช่วยตีกรอบความเข้าใจของผู้เรียนในชั้นให้ออกมาเป็นเนื้อหาที่เข้าใจง่ายในไม่กี่บรรทัดได้แบบนี้ ก็คือ ‘Note Taker’ นั่นเอง ดังนั้น ‘Note Taker’ สำหรับห้องเรียน ‘Leave your mark 03’ แล้ว จึงเป็นเหมือนเพื่อนใจดีนักแจกโน้ต ที่ช่วยให้คนในห้องทุกคนเข้าใจทุกอย่างได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียเวลาไปกับการคัดแยกสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเองเลย ทำให้ทุกเวลาที่มีถูกใช้ไปกับการทำสิ่งที่อยากทำได้อย่างคุ้มค่านั่นเอง
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/f525345d8d64d61fa6cc1cbeb3e49964.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/696b1a6ba2ad0d39bf63058ce45e7768.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/6e6eb8d9fd940878b8898b41fc7dacf5.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/b701bc0264255588541041b2cc43a9bc.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/dc076d1b4253ef1242f1c84d16bc0a94.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/bb89fa026d271d440d7010f0deddca1b.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/35d2d2ba5eab645ac73ad0ab0b4ffa7c.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/15b1f4897b78bef23cedeb46cdca6e2d.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/67c7f795d726e67af05bfe014bc4e024.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/66d45c2acdbab3c3949c0531a32aba95.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/b1922cff610ae71a6240ff7f895566b8.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/87c534a29075c61ffcab7de22a15ed9e.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/2ba9286aadac516e11951c9d5d950ac5.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/8299d3fc5bafa2f69674ceb5078df5d9.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/3172cd05df1673548649c0f5f152ebc2.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/323e72ea015912a1dcf689c43d848218.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/2ec0a31dd086610b97fd1ae08426a908.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/f05d4a3f5a84d1320c608e6f4ae7bbc8.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/be3af124f55366e8e2b45a2b96dd0edc.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/3b92893ae475691b495bbb62108c9cc4.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/3321753654d6c004be1ceb2984fef165.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/fe0309efbbb104fb1ff71adc867ddc52.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/c550b5bede8ac5ed40963371e3c55e98.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/b7a49a8927604c1290ead52c6f9d9469.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/25ead839da2865a8f017807aae185968.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/3789e494ba1965d3a47d8eb15ad5c895.jpg)
แม้ว่าในตอนนี้ ห้องเรียน ‘Leave your mark 03’ จะจบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ห้องเรียนนี้จะวนกลับมาอีกครั้งหนึ่งแน่นอน หากใครสนใจก็สามารถติดตามรายละเอียดคอร์สครั้งใหม่ได้ทางเพจ @Practicalschoolofdesign หรือในเร็ว ๆ นี้ ทาง PRACTICAL School of design เขาก็กำลังจะเปิด ‘Everyone-O-One’ ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจ Practical School of Design
หรืออ่านรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับคอร์สได้ที่:
https://www.practicalschoolofdesign.com/.../everyone-o-one/