ภาพธรรมชาติแต่ประหลาดตานี้เป็นคำเตือนจากวิทยาศาสตร์หรือเพียงจินตนาการแบบงานศิลปะ? นิทรรศการ ‘Younger Dryus’ ของศิลปินสายวิทย์ ปวริศา วังคำฟู อาจดูเหมือนโลกในฝันจากพิษไข้ ที่มีสิ่งคุ้นเคยแต่ก็ดูผิดแปลกไปจากความจริง บางสิ่งก็ใหญ่ขึ้น บางสิ่งก็มีสีที่ผิดเพี้ยนไปจนน่าขนลุก ซึ่งก็เป็นผลลัพธ์ของความหลงใหลในปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่ส่งผลต่อทุกสิ่งมีชีวิตตั้งแต่ขั้นกลายพันธุ์ จนอาจถึงสูญพันธุ์ ของศิลปินเอง
โดยที่มาของชื่อ Younger Dryus (B.P. 12900 -11700) คือปรากฏการณ์ธรรมชาติในเวลาประมาณหมื่นปีก่อน ที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง อันเป็นเหมือนโดมิโนตัวแรกที่เอียงตัวแล้วแตะวิวัฒนาการของโลกจนเราเดินทางมาถึงจุดนี้กัน ศิลปินสาวเลยตั้งคำถามสั้น ๆ ว่า ถ้าย้อนกลับไป และไม่ปรากฏการณ์นั้นเกิดขึ้นในโลก โลกของเราในทุกวันนี้จะเป็นยังไงบ้าง?
ซึ่งพอคิดดูแล้ว โลกที่ดอกไม้แต่ละรูปทรงและสีสันร่ายรำท่าทางของตน ผู้คนต่างใบหน้าอาศัยกับสัตว์สี่ขาต่างสายพันธ์ สิ่งมีชีวิตทุกอย่างก็สัมพันธ์กันหมด แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นสักอย่าง ทุก ๆ สิ่งก็คงเปลี่ยนแปลงด้วยกันหมด
ในโลกคู่ขนานแห่งนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ผู้คนเผชิญหน้าชะตากรรมที่คาดไม่ถึง สิ่งมีชีวิตตกยุคหลงมาเดินเพ่นพ่าน เป็นความมหัศจารรย์ของโลกแฟนตาซี ที่ชวนให้เราฝันถึงโลกที่ดีกว่าที่เป็นไปได้ พร้อมกับขนลุกเมื่อนึกถึงโลกที่เลวร้ายกว่านี้ ที่เป็นไปได้เหมือนกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น เพียงเมื่อศิลปินเคลื่อนเหตุการณ์เล็ก ๆ ในประวัติศาสตร์ออก เหมือนที่เรา เขียนประวัติศาสตร์เล็ก ๆ ในทุก ๆ วันที่ผ่านไป
นิทรรศการ Younger Dryus โดย ปวริศา วังคำฟู จัดแสดงตั้งแต่วันนี้ - 29 ก.ค. 2566 ที่ Number1gallery