คืนนั้นเริ่มต้นด้วยเสียงกีตาร์โปร่งบางเบา ล่องลอยดังอยู่ในฉากวันธรรมดา ๆ ของเด็กวัยรุ่น แต่จบที่คลื่นแตกพร่าสุดคลั่ง ดังเขย่าโสตประสาทตั้งแต่ระดับเนื้อหนังไปถึงใจกลางจิตวิญญาณ — ‘Night of the Dry Flowers’ คืองานแสดงดนตรีทดลองที่จัดขึ้นพิเศษสำหรับเทศกาลหนังทดลองกรุงเทพ ครั้งที่ 7 (BEFF7) คัดสรรโดยค่าย/กลุ่มคนดนตรี ‘SO::ON Dry Flower’ ชื่อที่วัยรุ่นสายทดลองยุค 2000s ต้องจำได้ฝังแน่นในหัวใจ เพราะพวกเขาคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลายคนเดินทางเข้ามาในโลกดนตรีฉบับที่ไม่ได้พบได้ในคลื่นวิทยุทั่วไป
ประวัติศาสตร์ของ SO::ON Dry Flower คงดูคล้ายประวัติศาสตร์ดนตรีทดลองในไทย (ถ้าลองสืบสายดี ๆ เราอาจพบว่าวงสายลอยตระกูลชูเกสทุกวันนี้คงมีไม่น้อยที่โตมากับวงอย่าง Goose หรือ Desktop Error จาก SO::ON Dry Flower) พวกเขาสร้างพื้นที่ให้กับดนตรีที่สร้างมวลบรรยากาศ โอบอุ้มช่วงเวลา หรือพาเราไปสัมผัสความรู้สึกที่่ซับซ้อน จากการแนวคิดการทำงานและแรงสนับสนุนของ ‘โคอิชิ ชิมิสึ’ หนึ่งในผู้ก่อร่วมตั้งค่าย SO::ON Dry Flower
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/e463df9fe8ea4b72388b1b06d838da75.jpg)
“ดนตรีและเสียงเป็นส่วนสำคัญเสมอในภาพยนตร์ ด้วยพลังวิเศษของมันในการเร้าอารมณ์ เล่าเรื่อง และพาผู้ฟังไปยังโลกที่ไม่เคยคุ้น แต่ก็คุ้นเคย แนวคิดเรื่อง ‘เสียงประกอบสำหรับหนังที่ไม่มีอยู่จริง’ ในงานแสดง ‘Night of the Dry Flowers’ เชื้อชวนผู้ชมมาเป็นผู้กำกับให้ภาพยนตร์ภายในของพวกเขาเอง ผ่านการด้นสดแบบอิสระ นักแสดงและผู้ชมต่างก็ก่อร่างเรื่องเล่าออกมาพร้อม ๆ กันแบบเรียลไทม์ ทำให้เกิดเรื่องเล่าร่วมกัน ที่ผู้เข้าร่วมทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์นั้น” โคอิชิ ชิมิสึ หรือที่เราแอบได้ยินหลายคนเรียกว่า ‘พี่โค’ กล่าว
“แนวคิด ‘เสียงประกอบสำหรับหนังที่ไม่มีอยู่จริง’ นี้อาจไม่ใช่ไอเดียหลักในการทำงานของผม แต่มันก็สะท้อนความหลงใหลต่อเสียงในฐานะเครื่องมือสำหรับเล่าเรื่อง — ที่เป็นปลายเปิด ไหลลื่น และเต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพความเป็นไปได้”
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/48333f73c877532cbfe2c3e8e1ce765d.jpg)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/c8df90c5d5a72fdf83a12d19d70e9240.jpg)
ในห้องที่ก่อนหน้า (และหลังจากนั้น) จัดแสดงงานวิดีโอแบบจัดวางสามจอยักษ์(พร้อมที่นอน) เหล่านักแสดงกว่า (กี่) คน ผลัดกันขึ้นโชว์ทั้งแบบเดี่ยว แบบสร้างบทสนทนาร่วมกัน และปะทะกัน
จากเสียงของเครื่องดนตรีที่คนทั่วไปคุ้นเคย อย่างกีตาร์โปร่ง เปียโนไฟฟ้า ซอเชลโล่ หรือกลองทั้งที่ตีด้วยมือและด้วยไม้ ไปจนถึงเสียงสังเคราะห์ที่เปลี่ยนร่างน้ำเสียงอบอุ่นให้กลับสว่างไสว ขยายท่วงทำนองแผ่วเบาให้กระจายทั่วห้อง หรือทำให้เสียงที่เราคุ้นเคยฟังดูไม่คุ้นเคยอีกต่อไป เสียงทำให้เรากลัวได้ เสียงทำให้เราขนลุก ตื่นตัว และเสียงก็สื่อไปถึงภาพต่าง ๆ ให้จินตนาการขึ้นมาในหัว ภาพที่ซ้อนทับกันระหว่างอารมณ์หลากหลายรูปแบบ ความเกรี้ยวกราดที่มีหลายใบหน้า การปลดปล่อยรายละเอียดเล็ก ๆ ในแต่ละเสี้ยวอารมณ์ ผสมไปด้วยภาพวาดที่คลี่คลายลายเส้นเคลื่อนไหวออกมาสด ๆ การเต้นร่วมสมัย และงานดีไซน์แสงไฟในห้องที่ชวนขนลุก
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/3ceeb0a438d6727cfa68f5b70b534745.jpg)
“วิธีการทดลองของผมมีรากฐานมาจากความสงสัยว่าเสียงมีปฏิสัมพันธ์อย่างไรกับความเงียบ พื้นที่ และความคาดเดาไม่ได้ตามธรรมชาติของอารมณ์มนุษย์ สำหรับผม การทดลองไม่ใช่แค่การแหกกฎ — แต่มันคือการจินตนาการถึงสิ่งเหล่านั้นใหม่ และการค้นไปในความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งนามธรรมกับสิ่งที่คุ้นเคยกันดี”
“ผมทำงานร่วมกับ DuckUnit อย่างใกล้ชิดมาก่อน ซึ่งพวกเขาก็มาร่วมกำกับการแสดงนี้ด้วย ถึงพวกเราจะแลกเปลี่ยนภาษาการสร้างสรรค์ร่วมกันผ่านเวลาต่าง ๆ แต่งานแสดงนี้เป็นการทำงานร่วมกันอย่างลึกซึ้งครั้งแรกของพวกเรา และผมตื่นเต้นมากที่จะสำรวจสิ่งที่พวกเราสร้างด้วยกัน”
“แต่สำหรับศิลปินและสมาชิกของ SO::ON Dry Flower พวกเราไม่ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนคอลเล็กทีฟอย่างทางการแล้ว แต่เรายังคงติดต่อกันใหม่เมื่อมีโครงการใหม่ ๆ ที่เหมาะเจาะเข้ามา เปิดให้ไอเดียสดใหม่ได้ผุดขี้น และเฉลิมฉลองให้อดีตของพวกเราที่ทำให้เราได้มาเจอกันด้วย” พี่โคกล่าว
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/806cd5965d8223db3937b677a11faf2a.jpg)