“โอพระเจ้า โปรดทรงเมตตาข้าด้วยเถิด — Kyrie, eleison” ถ้อยคำจากพระคัมภีร์ที่ดังขึ้นกลางภาพยนตร์ ‘Kyrie คิริเอะเพลงรักคือเธอ’ เหมือนเป็นคำเตือนกับเราว่า หลังจากนี้ชะตากรรมของทุกตัวละครในเรื่องจะต้องเจอแต่เคราะห์กรรมซัดแบบไร้ความปราณี ซึ่งความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าก็คงเป็นเช่นนั้น — ฝ่ายหนึ่งมีอำนาจยิ่งใหญ่ ส่วนอีกฝ่ายข้างใต้ทำได้แค่เพียงพึ่งพิงให้ตัวเองมีชีวิตรอด แต่ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคนจะเป็นแบบเดียวกันได้อย่างไร? เราจะทุ่มทั้งชีวิตปกป้องดูแลผู้อ่อนแอได้ไหม หรือนั่นเป็นแค่อาการหลงตัวเป็นนักบุญแบบ ‘Savior Complex’? ภาพยนตร์จากชุนจิ อิวาอิ (ผู้กำกับ All About Lily Chou-Chou) เรื่องนี้จะมาช่วยเราตอบคำถามเหล่านั้น
‘คิริเอะ’ นักดนตรีสาวริมถนนผู้ร้องเพลงได้สุดพลังปอด แต่กลับแทบไม่สามารถส่งเสียงได้ในการพูดคุยธรรมดา เธอมีอดีตที่ขมขื่นเกินกว่าจะมาเล่าสปอยล์ได้ แต่เลือกที่จะทิ้งตัวตนเดิมของเธอไปกับชื่อเก่าที่เธอไม่ใช้อีกแล้ว เช่นเดียวกับ ‘อิ๊กโกะ’ สาวทันสมัยไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ทิ้งชื่อเดิมของเธอไปแบบไม่หันหลังกลับ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากการพบกันโดยบังเอิญของทั้งสอง และเล่าแบบสลับช่วงเวลากลับไปกลับมาเพื่อคลี่คลายปมของพวกเขา รวมทั้ง ‘นัตสึฮิโตะ’ ชายหนุ่มผู้ตั้งใจจะดูแลคิริเอะเสมือนพี่ชายแท้ ๆ ของเธอ
นัตสึไม่ใช่พี่ชายแท้ ๆ ของคิริเอะ เขาเข้ามาในชีวิตเธอในช่วงเวลาที่ยากลำบากของเธอ เมื่อทุกอย่างพังทลาย ช่วงเวลาที่เธอน่าจะอ่อนแอที่สุด เมื่อพี่สาวที่เคยทุ่มทุกอย่างให้เธอไม่สามารถปกป้องเธอได้อีกแล้ว แต่ยังไงเขาก็ไม่ใช่พี่ชายแท้ ๆ ของเธอ อย่างน้อยก็ในทางกฎหมาย ซึ่งทำให้พวกเขาต้องพรากจากกัน เช่นเดียวกับอิ๊กโกะที่เข้ามาโอบอุ้มเธอจากข้างถนน (ที่จริง ๆ ก็ไม่ค่อยสกปรกนักเพราะเป็นประเทศญี่ปุ่น) ให้มาอยู่ในที่พักดี ๆ พาไปรู้จักคอนเนคชั่นในวงการดนตรี แต่ท้ายที่สุดเธอเองก็ยังเอาตัวไม่รอดต้องนอนข้างถนนไม่ต่างกัน
เวลาเรารักใคร ห่วงใคร เราก็คงอยากปกป้องดูแลเขาให้ดีที่สุด บ่อยครั้งภาพที่เราเห็นคนรักก็เลยบิดเบี้ยวไปตามฟิลเตอร์ที่ใช้มอง— พวกเขาช่างบอบบาง และพวกเราก็เป็นเทวดาประจำตัวให้เขาได้ พวกเขาคือผู้รับความช่วยเหลือ ส่วนพวกเราคือผู้ช่วยเหลือ จุดเด่นที่สุดของหนังเรื่องนี้เลยคือการสร้างตัวละครแต่ละคน ให้มีมิติที่ซับซ้อน จนทำให้เราไม่สามารถอ่านพวกเขาได้ด้วยฟิลเตอร์แบบนั้น
คิริเอะผู้โชคร้าย เอาชีวิตรอดด้วยตัวเองได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนนัตสึเองกลับมายืนร้องไห้ด้วยความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถเป็นพี่ชายผู้ดูแลเธอ มันเป็นเรื่องตลกร้ายที่ทั้งเรื่องเราได้เห็นรอยยิ้มของคิริเอะครั้งแล้วครั้งเล่าแม้จะผ่านเรื่องราวหนักหนามาทั้งชีวิต แต่กลับเห็นน้ำตาแค่ของนัตสึและอิ๊กโกะ ผู้เหมือนจะเอาอยู่ แต่ซ่อนความบอบบางไว้ไม่น้อยเลย
ในชีวิตจริง เราก็คงไม่มีใครเป็นผู้อ่อนแอที่รอคอยความช่วยเหลืออยู่ตลอด และก็คงไม่มีใครเป็นผู้เข้มแข็ง ที่รับบทเทวดาประจำตัวคอยปกป้องอีกฝ่ายไปทั้งชีวิตเหมือนกัน เพราะภายใต้โชคชะตา ลิขิตฟ้า หรือพระเจ้า ตามแต่ใครจะเรียก เราเป็นเพียงคนธรรมดาที่มีทั้งช่วงเวลาที่เข้มแข็งและช่วงเวลาที่อ่อนแอ เป็นทั้งผู้ที่ให้และผู้รับพลังใจกับผู้อื่น เป็นจุดเล็ก ๆ ในจักรวาลที่มีความหมายยิ่งใหญ่สำหรับคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบตัว ตัวละครที่มีบุคลิกซับซ้อนทั้งหมดในภาพยนตร์นี้เลยเป็นคำถามที่หนักหน่วงและตกค้างในใจเราได้เป็นวัน เพราะในขณะที่ทุนนิยมบอกเราว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว Kyrie กลับเตือนเราว่ามนุษย์ก็เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเห็นแก่คนอื่นจนสุดหัวใจได้เหมือนกัน และอาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำในบางที
Kyrie คิริเอะเพลงรักคือเธอ ภาพยนตร์โดย ชุนจิ อิวาอิ ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์