เฝ้ารอมาอย่างยาวนาน ในที่สุดประเทศไทยก็มีร้าน ‘me ISSEY MIYAKE’ เป็นของตัวเองแล้ว เพราะน้องเล็กคนสุดท้องจากตระกูล ISSEY MIYAKE แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นผู้พลิกโฉมหน้าของวงการแฟชั่นด้วยเนื้อผ้าพลีตอันเป็นเอกลักษณ์ เพิ่งจะมาเปิดร้านใหม่ที่ชั้น M ของศูนย์การค้า The EmQuartier ซึ่งถือเป็นทั้งร้าน free standing store แห่งแรกของประเทศไทย และของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยทีเดียว
ที่เราตื่นเต้นสุด ๆ เลยคือนอกจากนี่จะเป็นร้านแรกในภูมิภาคแล้ว ร้าน me ISSEY MIYAKE สาขาใหม่นี้ยังสวยงาม น่ามาเยือนสุด ๆ การตกแต่งภายในร้านถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายด้วยการใช้สีขาวสะอาดตาเป็นโทนสีหลัก ทำให้สีสันของเสื้อผ้าและเครื่องประดับภายในร้านดูโดดเด่นชัดเจน นอกจากนั้น พื้นที่ทั้งหมดของร้านยังถูกล้อมไปด้วยกระจกใสบานใหญ่ คอยดึงดูดสายตาของผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาเหมือนกับเป็นอควาเรียมขนาดย่อม ๆ ใจกลางเมืองเลย
ถึงจะจากเราไปตั้งแต่ปี 2022 แต่สิ่งที่ Issey Miyake แฟชั่นดีไซเนอร์ผู้อยู่เบื้องหลังตำนานความยิ่งใหญ่ของเครือ ISSEY MIYAKE และผู้ให้กำเนิดเสื้อผ้าที่ผสมผสานทั้งศาสตร์และศิลป์ได้ทิ้งไว้ให้กับเรายังคงถูกสานต่อผ่านแนวคิดและสินค้าคุณภาพเยี่ยมของแบรนด์น้อยใหญ่ในเครือ หนึ่งในนั้นคือ me ISSEY MIYAKE นี่แหละ ที่ตั้งใจเป็นแบรนด์แฟชั่นสวมใส่สบายที่คนทุกวัย สามารถหยิบมาใช้ได้ในทุก ๆ วัน เป็นเสื้อผ้า ready-to-wear และ accessories ที่สามารถนำมา mix and match ได้สนุกกับทุกไอเทม แถมยังมีน้ำหนักเบา กะทัดรัด และดูแลง่ายสุด ๆ ด้วย
ไหน ๆ ก็มาถึงร้านแล้ว เราเลยอยากชวนทุกคนมาเลือกไอเทมในร้าน me ISSEY MIYAKE มาลอง mix and match กันดูบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด เสื้อคลุม กางเกง หรือไอเทมน่ารัก ๆ อย่างกระเป๋าผ้าอัดพลีตตัวดัง ก็ดูจะมีสไตล์ หยิบมาใช้ได้ทุกวัน แถมยังสวมใส่สบายไปหมดทุกชิ้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า สีสันจัดจ้านที่เราเห็นบนราวแขวน พอถูกหยิบมาใส่แล้วจะเพิ่มความสนุกให้กับ everyday look ธรรมดา ๆ ได้ขนาดนี้
ความลับของลุคเก๋ ๆ แต่ยังเบาสบายนี้น่าจะอยู่ที่เนื้อผ้าหลักทั้ง 4 แบบของแบรนด์อย่าง STRETCH PLEATS, CAULIFLOWER, FINE KNIT PLEATS และ SEE-THROUGH CREPE ที่แต่ละเนื้อผ้าก็มีคุณสมบัติและกระบวนการผลิตที่แตกต่างกันออกไป แต่ยังให้ผิวสัมผัสนุ่ม สบายผิว ยืดหยุ่นได้ดี มีน้ำหนักเบา และดูแลรักษาง่าย
ลองลุคแรกกับเสื้อยืดแขนสั้นเนื้อผ้า CAULIFLOWER ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจากผ้าคอตตอน โดยใช้เส้นด้ายโพลียูรีเธนเป็นเส้นยืนและเส้นพุ่งในการทอ ทำให้เกิดการหดตัวระหว่างขั้นตอนการย้อมสีจนให้ผลลัพธ์เป็นพื้นผิวเอกลักษณ์ที่ยังคงความสบายในการสวมใส่ และยังมีความยืดหยุ่นเข้ากับสรีระของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี
ไปกันต่อที่ลุคที่ 2 กับชุดที่มีไฮไลต์อยู่ที่กางเกงเนื้อผ้า FINE KNIT PLEATS ผ้านิตอัดพลีตจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ใช้เส้นด้ายเพียงเส้นเดียวตลอดระบวนการผลิต จนทำให้ได้เป็นเนื้อผ้าที่มีผิวสัมผัสเบา สบาย และมียังมีให้เลือกหลายสี หลายสไตล์ด้วย
มาถึงลุคที่ 3 ที่โดดเด่นสุด ๆ จากเสื้อคอเต่าแขนยาวสีดำทรงเท่ไม่เหมือนใคร แถมยังมีความยืดหยุ่นหลายทิศทางจากเนื้อผ้า STRETCH PLEATS ที่เกิดจากการพัฒนาผ้าพลีตเนื้อละเอียดทั้งแนวตั้งและแนวนอนจนสามารถสวมใส่สบาย แถมยังดูแลรักษาได้ง่าย ไม่มียับ เรียกได้ว่าเป็นเนื้อผ้าตัวเด่นของ me ISSEY MIYAKE ที่วางขายมาตั้งแต่ปี 2000 เลยทีเดียว
ปิดท้ายด้วยลุคสุดท้ายกับชุดสีเทาซีทรูจากเนื้อผ้า SEE-THROUGH CREPE ที่ใช้เส้นด้ายบิดเกลียวเป็นเส้นพุ่ง ก่อนที่จะคลายเกลียวออกในขั้นตอนการย้อมสีจนทำให้ลวดลายของผ้าเครปลายทางปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของผ้า ให้คุณสมบัติบางเบา ไม่ยับย่น และกะทัดรัดสุด ๆ สำหรับกับการพกพา
และเนื้อผ้า STRETCH PLEATS นี่แหละที่ถูกหยิบมาใช้เป็นตัวเอกของ ‘PALETTE 10’ ซีรี่ส์ใหม่ของ me ISSEY MIYAKE ที่ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ด้วยการนำเสนอเสื้อผ้าสวมใส่สบายที่มาพร้อมกับเฉดสีสดใสมาเพิ่มความสนุกให้กับการแต่งตัว ไม่ว่าจะเป็นไอเทมอย่างเสื้อคอเต่าแขนยาว เสื้อคอกลมแขนสั้น หรือผ้าพันคอที่มีให้เลือกมากกว่า 10 สี ซึ่งความพิเศษอยู่ที่ซีรีส์ PALETTE 10 นี้จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป เฉพาะที่ร้าน me ISSEY MIYAKE สาขา The EmQuartier เท่านั้น!
แต่สำหรับใครที่ใจร้อน อยากลองไปสัมผัสกับเนื้อผ้า core fabrics ทั้ง 4 แบบก่อนใคร ก็สามารถเข้าไปดูของจริงที่หน้าร้านได้เลยตั้งแต่วันนี้ me ISSEY MIYAKE รอต้อนรับทุกคนอยู่ที่ ชั้น M ของศูนย์การค้า The EmQuartier อย่าลืมแวะไปช็อปกันด้วยนะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE Official @CLUB21TH_IM https://lin.ee/fFfXzSf
M Fl. The EmQuartier T. 02 021 2100