ว่ากันว่าเดือนสิงหาคมของปีนี้คือเดือนที่สมรภูมิเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีร้อนระอุดุเดือดแบบฆ่าได้ฆ่า เพราะแค่เดือนนี้เดือนเดียวก็มีวงเกิร์ลกรุ๊ปตัวแม่ทยอยคัมแบ็คกันแบบแน่นชาร์ต ไล่มาตั้งแต่การกลับมารวมตัวของแม่ ๆ Girl’s Generation, การคัมแบ็กในรอบ 2 ปีของ Blackpink, การกลับมาพร้อมกับเพลงปลุกใจ ‘กาเท๊ย’ อย่าง IVE ไปจนถึง Twice ที่เตรียมคัมแบ็กในวันที่ 26 สิงหาคมนี้
แม้จะเป็นเดือนที่เหล่าตัวแม่ลงสนามกันอุตลุดจนแฟน ๆ K-pop ต่างเห็นตรงกันว่า เดือนนี้ไม่แน่จริง อย่าหาญสู้ แต่ก็ยังมีหนึ่งวงเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ที่ขอสวนกระแสด้วยการเดบิวต์เปิดตัวในเดือนนี้ ซึ่งผู้กล้าหาญชาญชัยก็คือ NewJeans วงน้องใหม่จาก ADOR ค่ายเพลงภายใต้ร่มเงา HYBE ค่ายเพลงที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ BTS นั่นเอง
แม้จะเพิ่งเดบิวต์ได้ไม่ถึงเดือน แต่ตอนนี้น้อง ๆ NewJeans ก็กำลังเดินหน้าล้างชาร์ตแบบไม่แคร์รุ่นพี่ โดยนอกจากจะทุบสถิติกลายเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปที่มียอดพรีออร์เดอร์อัลบั้มสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติเคป็อปแล้ว ยังเพิ่งทำสถิติ Real-time all kill ที่จะเกิดขึ้นเมื่อซิงเกิลนั้น ๆ ขึ้นสู่อันดับ 1 ของชาร์ตเพลงใหญ่ของเกาหลีพร้อมกัน คือ Bugs, Genie, MelOn, และ FLO
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/84dd8fa86a28569997722f2f67895cd1.jpeg)
แม้ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอายุของสมาชิกในวงทั้งห้าอย่าง มินจี, ฮันนิ, แดเนียล, แฮริน และฮเยอิน ที่มีค่าเฉลี่ยอยู่แค่ 16 ปี (พี่ใหญ่สุดของวงอายุ 18 ปี ส่วนน้องเล็กอายุแค่ 14 ปีเท่านั้น) ในขณะที่มินฮีจิน อาร์ตไดเรกเตอร์และซีอีโอของ ADOR ผู้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีลักษณะเข้าข่าย ‘Pedophile’ (พวกใคร่เด็ก) จากการที่เธออ้างอิงแรงบันดาลใจในการปั้นวงนี้มาจากไอคอนนักแสดงเด็กยุค 80s-90s อย่าง บรู๊ค ชีลด์ หรือ นาตาลี พอร์ตแมน แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดยั้งความปังเป็นพลุแตกของ NewJeans ได้
และในอีกด้านหนึ่ง มินฮีจินก็ถูกแซ่ซ้องในฐานะอาร์ตไดเรกเตอร์ผู้มีสายตาเฉียบคม (ก่อนจะย้ายมาเป็น CEO ให้ค่ายใหม่ของ HYBR เธอเคยเป็นลูกหม้อของค่าย SM Entertainment จากการเป็นผู้ปลุกปั้นวงดังอย่าง Girls’ Generation, SHINee, Exo, f(x) และ Red Velvet) โดยเฉพาะการใช้วิชวลของ ‘Aesthetic’ ที่กำลังมาแรงในยุคนี้อย่าง Y2K มาลีดคอนเซปต์และภาพรวมของวง จนทำให้ NewJeans โดดเด่นขึ้นมาจากบรรดาเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ร่วมยุคที่มักเปิดตัวด้วยคอนเซปต์เฟียส ๆ เปรี้ยว ๆ อย่าง Girl Crush หรือ Royal/Glam
แต่ NewJeans กลับมาพร้อมกับภาพลักษณ์ของความสดใสและการชวนหวนนึกถึงช่วงเวลาแห่งความทรงจำช่วงยุค 2000s โดยทั้งหมดนี้ถูกสะท้อนผ่านทั้งแฟชั่น สไตลิ่ง ไปจนถึงอาร์ตไดเรกชั่นของวง
เพราะเรารักน้อง และรักอาร์ตไดเรกชั่นของวงน้อง เราจึงอยากป้ายยาให้ทุกคนมารักน้องยีนส์ร่วมกันกับเรา ด้วยการไปสำรวจ Y2K Aesthetic ที่สะท้อนอยู่ในองค์ประกอบต่าง ๆ ของวง บอกเลยว่าถ้าคุณเป็นคนที่รักงานออกแบบและงานกราฟิก รับรองว่าจะตกหลุมรักวงนี้แบบถอนตัวไม่ขึ้นแน่นอน!
คอมพิวเตอร์และ Window 9x
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/54c3825c2a6008c0907bb794a2c27703.jpg)
ใครที่ได้ดูเอ็มวีของน้อง ๆ NewJeans ครบทุกเพลง ทุกเวอร์ชั่นแล้ว ย่อมต้องสะดุดตากับการใช้วิชวลกราฟิกที่ทำให้นึกถึงคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าแบบยุค 8 บิต และอินเทอร์เฟซของระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์รุ่นคลาสสิกอย่าง Microsoft Window 9x ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กเจนวายคุ้นเคยกันดี ในขณะที่น้อง ๆ ที่โลดแล่นอยู่ในเอ็มวีน่าจะเกิดมาพร้อมกับการมาถึงของสมาร์ตโฟนแล้ว (น้องมินจีพี่คนโตเกิดปี 2004 หรือช่วงเดียวกับที่ Window XP เปิดตัว ส่วนน้องเล็กอย่างฮเยอินเกิดปี 2008 ซึ่งเป็นปีที่ สตีฟ จ็อบ เปิดตัว iPhone 3G)
.
ทำไมพอพูดถึง Y2K แล้วต้องมีเกี่ยวโยงกับคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า? นั่นก็เพราะต้นกำเนิดของ Y2K มีเรื่องมีราวมาจากวิกฤติคอมพิวเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษที่ 21 นั่นเอง!
ย้อนกลับไปในยุคก่อน 2000s พื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์มีราคาแพงมาก ๆ คอมพิวเตอร์ทั้งหมดในยุคนั้นจึงเก็บข้อมูลปี ค.ศ. ด้วยเลขสองหลักสุดท้าย (2 digits) โดยตัดตัวเลขสองหลักข้างหน้าคือ 19-- ออกไป (เหมือนเวลาที่เราเรียกยุค 50, 60, 70 ฯลฯ วิธีการนี้ช่วยประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์ได้อย่างมหาศาล แต่หายนะก็มาเยือนเมื่อโลกหมุนสู่สหัสวรรษใหม่ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2000 เมื่อถึงเวลานั้น คอมพิวเตอร์ทั้งโลกก็กลับเข้าใจว่ามันคือปี 1900! (เพราะไม่ได้บันทึกเลขสองหลักข้างหน้าเอาไว้) ทำให้การทำงานของระบบผิดเพี้ยน ระบบบัญชี ธนาคาร และโปรแกรมคำนวณทั้งหมดล่มสลาย บัตรเครดิตของผู้ใช้ที่มีวันหมดอายุเป็นปี 2000s ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะระบบกลับแปลงค่า 00 เป็นปี 1900 ทำให้บัตรเครดิตทั้งหมดเลยอายุการใช้งาน จนเกิดเป็นวิกฤติคอมพิวเตอร์ทั่วโลก
แล้วทำไมวิกฤติคอมพิวเตอร์ล้างบางโลกถึงกลายมาเป็นสุนทรียะสุดสดใสที่คนคิดถึง? นั่นก็เพราะว่า Y2K ทำให้คนนึกถึงช่วงเวลาแสนสุขในอดีตที่เทคโนโลยียังเป็นมิตร ผู้คนยังเชื่อว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และดิจิทัลจะทำให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้น นำทุกชีวิตไปสู่โลกอนาคตอันสดใส แต่เมื่อปัญหา Y2K เกิดขึ้น ผู้คนก็เริ่มมองเทคโนโลยีในมุมมองที่ต่างและดาร์กไปจากเดิม จนกลายมาเป็นมรดกทางความคิดที่ส่งผลให้เราทุกวันนี้เริ่มตระหนักถึงด้านมืดและภัยร้ายจากเทคโนโลยีกันมากขึ้นแบบทุกวันนี้
Juicy Couture Fashion
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/c7fc707f27e110801f22bdfcb27d63bc.jpeg)
เมื่อพูดถึง Y2K สิ่งที่สะท้อนสุนทรียะของยุคคอมพิวเตอร์จอหนายุคนี้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นกางเกงขาม้า เสื้อแจ็กเกตเมทัลลิก เสื้อพอดีตัวสีสันสดใสที่เรียกว่า Babytee เสื้อตาข่ายหรือเสื้อซีทรู เสื้อผ้าจากวัสดุมันวาวหรือสะท้อนสีโฮโลแกรม ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากด้านหลักของ ‘CD’ ประดิษฐกรรมสุดไฮเทคแห่งยุค 2000s ไปจนถึงการมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าแบบฉีกทุกกฎความคุมโทน เช่น ลายชนลาย หรือเสื้อยีนส์กับกางเกงยีนส์
ทุกสิ่งที่ว่ามานี้ล้วนมีให้เห็นในคอสตูมของ NewJeans ไม่ว่าจะเป็นในภาพโปรโมต โฟโต้บุ๊ค เอ็มวี หรือชุดออกงานต่าง ๆ ซึ่งหากย้อนกลับไปในยุคนั้น แฟชั่นเหล่านี้ล้วนได้แรงบันดาลใจมาจากกระแส Futuristic หรือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การจินตนาการถึงโลกไซไฟและโลกแห่งอนาคต จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้บรรดาแบรนด์ไฮเอนด์อย่าง Christian Dior ที่สะเทือนวงการแฟชั่นในยุคนั้นด้วยเสื้อแจ็กเก็ตหนังแก้วมันวับที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหนัง The Matrix หรือแบรนด์ Miu Miu ที่มาพร้อมกับเสื้อและกระโปรงซีทรู และ Walter Van Beirendonck ที่เป็นต้นกำเนิดของแฟชั่นสีนีออนเปรี้ยวจี๊ด แว่นกันแดดสีเจ็บ และบรรดาเสื้อผ้าทำจากผ้ายืดสแปนเด็กซ์สุดล้ำโลก
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/ad6283a17f50a15ec4f181ab5f73c249.png)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/155b3340b7ae6133ae3dfc57b03addaf.png)
แต่ว่ากันว่าอีกหนึ่งผู้ทรงอิทธิพลสำคัญต่อแฟชั่น Y2K ก็คือบรรดาศิลปินผิวดำในยุค 2000s โดยเฉพาะเกิร์ลกรุ๊ปตัวแม่ในยุคนั้นอย่าง Blaque, 3LW และที่เป็นตำนานที่สุดก็คือ Destiny’s Child (ก่อนที้แม่บียอนเซจะออกมาฉายเดี่ยว) ผู้เปิดทางให้แฟชั่นยีนส์เอวต่ำ สายเดี่ยวสีนีออน และเสื้อตาข่าย ซึ่งแม้กระทั่งแบรนด์ซิกเนเจอร์ของยุค 2000s อย่าง Juicy Couture ที่ปัจจุบันกลายเป็นแบรนด์ยอดฮิตในร้านวินเทจมือสอง ก็มีศิลปินผิวดำอย่าง เจเน็ต แจ็กสัน, อลิเซีย คีย์ และ มิสซี เอลเลียต เปิดทางมาก่อน
โดยว่ากันว่าสาเหตุที่ทำให้ไอดอลผิวดำในยุคนั้นเป็นผู้บุกเบิกแฟชั่นล้ำสมัยเหล่านี้ ก็เพราะพวกเขาได้รับอิทธิพลจากสไตล์ Afrofuturism ที่เฟื่องฟูมาตั้งแต่ยุค 80s โดยเป็นสุนทรียะและแนวคิดที่เชื่อมโยงกับเหล่าคนแอฟริกัน-อเมริกันพลัดถิ่นเข้ากับจินตนาการเรื่องโลกในอนาคตนั่นเอง
Dotcom Graphic Style
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/766e26e32a0633218561842168117ae8.jpg)
อีกหนึ่งความนอสตัลเจียที่พบเห็นได้ในอาร์ตไดเรกชันของ NewJeans ก็คือบรรดาวิชวลกราฟิกต่าง ๆ ที่ทำให้เรานึกถึงโลโก้ค่ายเพลงดังบนปกเทปคลาสเซตต์ (น้อง ๆ เกิดทันมั้ย?) หรือโลโก้แบรนด์สินค้าที่เห็นอยู่ในหน้าแม็กกาซีน ซึ่งเอกลักษณ์ของกราฟิกดีไซน์แห่งยุค Y2K ก็คือการใช้ตัวอักษร 3D ตัวหน้าแบบ ‘บับเบิล’ เน้นให้กระแทกตาเข้าไว้ หรือถ้าเป็นไทโปแบบ 2D ก็จะใช้เส้นหนา ๆ และสีนีออนสะดุดตา รวมไปถึงการใช้กราฟิกที่สื่อถึงพิกเซล อันได้แรงบันดาลใจมาจากการแสดงผลของหน้าจอโทรศัพท์มือถือในยุคเกมงูเฟื่องฟูนั่นเอง
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/36b425d0a4596641b95418ae7f809862.png)
![](https://falcon.groundcontrolth.com/upload/012e65c5369ec78b3cea96254be208d2.jpeg)
ที่มาที่ไปของสไตล์กราฟิกเหล่านี้ก็มาจากความเฟื่องฟูของกระแส Dotcom ในต้นยุค 2000s ซึ่งเป็นการเปิดศักราชรุ่งอรุณของเว็บไซต์ที่ทำให้บริษัทมากมายแห่มาเปิดขายสินค้าและทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ ซึ่งวิชวลที่เห็นได้ทั่วไปบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ในยุคนั้นก็คือบรรดาเอฟเฟกต์สุดเก๋ไก๋สไตล์ WordArt เครื่องมือยอดฮิตจาก Microsoft Powerpoint ที่ทำให้พรีเซนเตชั่นของนักเรียนในยุคนั้นเก๋ไก๋ด้วยเอฟเฟกต์การ์เดียน ตัวอักษรนูน 3D กระแทกตา ไปจนถึงการใส่กลิตเตอร์ฟรุ้งฟริ้ง
นอกจากอิทธิพลจากคอมพิวเตอร์แล้ว ปัจจัยที่ส่งอิทธิพลต่องานกราฟิกดีไซน์ในยุคนี้ยังประกอบด้วย เกม, โปเกมอน อนิเมะญี่ปุ่น และงานออกแบบจาก The Designers Republic สตูดิโอออกแบบกราฟิกจากเชฟฟีลด์ ประเทศอังกฤษ ที่มีผลงานเด่นเป็นบรรดาโลโก้เพลงอิเลกทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่เน้นความสนุกสนานและสีสันสดใส เล่นกับกระแสบริโภคนิยมและสื่อโฆษณาอัยล้นทะลักในยุคนั้น โดยพวกเขามีปรัชญาการออกแบบว่า ‘ความเด๋อด๋าของลัทธิบริโภคนิยมที่ถูกถ่ายทอดผ่านงานออกแบบโลโก้ขององค์กร’ ซึ่งลูกค้าของสตูดิโอแห่งนี้ก็มีตั้งแต่ Adidas, Coca-Cola, MTV, Nokia, Nikoloden ฯลฯ
อ่านเรื่องราวของ Y2K เพิ่มเติมได้ที่ https://groundcontrolth.com/blogs/37