ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2023 ทีม GroundControl ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยว Thailand Biennale,Chiang Rai 2023 ด้วยกันมา โดยหนึ่งในสถานที่ไฮไลต์ที่หมายมั่นกันว่าต้องไปเยือนให้ได้ ก็คือ ‘โรงเรียนบ้านแม่มะ’ สถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะของ ‘เจ้ย - อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล’ และในที่แห่งนั้น นอกจากเราจะได้ตื่นเต้นกับหนังสั้นของพี่เจ้ย เราก็ยังค้นพบศิลปินคนใหม่ในเรดาร์อย่าง ‘ปอม - นพนันท์ ทันนารี’ ศิลปินภาพวิวทิวทัศน์ชาวเชียงราย ผู้มีฐานที่มั่นอยู่ในนครปฐม และเป็นเจ้าของลายเส้นพริ้วไหวเลือนลางบนม่านลิเกในงานของพี่เจ้ย
เราเห็นงานของนพนันท์อีกครั้งใน ‘Spirit of the Land — Part I’ ที่ @saratta.space นิทรรศการเดี่ยวที่เขาตั้งใจถ่ายทอดพลังแห่งจิตวิญญาณอันเต็มเปี่ยมของธรรมชาติ ผ่านภาพวิวทิวทัศน์อันเวิ้งว้าง วังเวง แต่ก็ให้เซนส์ของความศักดิ์สิทธิ์อย่างน่าประหลาด จากนั้นเขาก็ได้จัดนิทรรศการภาคต่อขึ้นอีกครั้งในชื่อ ‘Spirit of the Land — Part II’ ที่ โรงแรม ศาลา อยุธยา หนึ่งในจังหวัดที่ส่งแรงบันดาลใจให้วาดภาพต่าง ๆ ในนิทรรศการขึ้นมา
ความพิเศษของภาคต่อที่เพิ่มความสนใจให้เราสุด ๆ คือการที่ทีมสารัตถะเขาวางแผนจัดทัวร์ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อพาผู้ชมมาตามรอยแรงบันดาลใจของนพนันท์กันถึงสถานที่จริงรอบเมืองเก่าอยุธยา ก่อนจะไปเยี่ยมชมชิ้นงานศิลปะกันต่อในแกลเลอรี โดยมีศิลปินมาถ่ายทอดความรู้สึกและจุดเริ่มต้นของการสร้างงานแต่ละชิ้น ร่วมกับ ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ ที่มารับหน้าที่เป็นผู้บรรยายประวัติศาสตร์อยุธยาในพื้นที่ตลอดทั้งทริป
ในฐานะที่พวกเราได้ติดตามผลงานของเขามานาน พอเห็นสารัตถะประกาศจัดทัวร์ปุ๊ป เราก็ตัดสินใจเข้าร่วมทัวร์ครั้งนี้ทันที และในระหว่างที่ทุกคนกำลังเก็บเกี่ยวบรรยากาศระหว่างทัวร์กันแบบชิล ๆ เราก็มีโอกาสพูดคุยกับนพนันท์ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังในการทำงานของเขา เกี่ยวกับแนวคิดเรื่องธรรมชาติ จิตวิญญาณ และความเชื่อแบบศาสนาผี ที่ส่งผลต่อสิธีการคิด การมอง และการวาดภาพวิวทิวทัศน์ ที่ไม่ได้ถ่ายทอดแค่ความจริง
‘Sublime’ ภาวะเลอเลิศอันยากจะอธิบาย จุดเริ่มต้นแรงบันดาลใจและเส้นทางศิลปินภาพวิวทิวทัศน์
หนึ่งในพื้นที่ที่ศิลปินบอกกับเราว่าประทับใจและเราเองก็ประทับใจเช่นกัน คือเจดีย์คู่หนึ่งที่ตั้งเคียงกันอยู่ภายในบริเวณวัดเจ้าปราบ โดยเจดีย์อันหนึ่งถูกปกคลุมไปด้วยรากต้นไม้ ซึ่งสิ่งนี้แหละที่ส่งต่อแรงบันดาลใจให้ศิลปินรู้สึก Sublime หรือ ภาวะเลอเลิศ จนตระหนักว่า ไม่มีสิ่งใดยิ่งใหญ่ไปกว่าธรรมชาติ
พอเห็นความหลงใหลในธรรมชาติจากสายตาศิลปิน เราเลยเอ่ยปากถามทันทีว่า เขาเริ่มตกหลุมรักในธรรมชาติมาตั้งแต่เมื่อไร ซึ่งนพนันท์ก็ตอบเราอย่างตั้งใจว่า “ธรรมชาติเนี่ยอยู่กับผมมาตั้งแต่เด็ก พอตอนเรียนผมก็ลองทำหลายอย่าง จนมาทำวิทยานิพนธ์ ผมเลือกทำเกี่ยวกับธรรมชาติ เพราะสนใจงานภาพเขียนแบบโมโนโครมของเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพภูมิทัศน์ที่ไม่ได้ซับซ้อนในเชิงมิติทางสังคมมากนัก”
“ตอนเรียน ผมชอบฉากกั้นห้องของญี่ปุ่นมาก โดยเฉพาะงานของ ฮาเซงาวะ โทะฮะคุ (Hasegawa Tōhaku) ที่เขียนฉากกั้นห้องเป็นภาพต้นสนอยู่ท่ามกลางม่านหมอก ผมเคยเห็นในหนังสือแล้วอยากไปดูของจริงมาก แม้จะยังไม่มีโอกาส แต่มันเป็นงานที่ให้แรงบันดาลใจกับผมมาก แม้จะเป็นแค่ภาพถ่ายก็ตาม นั่นทำให้ผมอยากเขียนภาพภูมิทัศน์มาเรื่อย ๆ และเป็นภูมิทัศน์ที่เน้นธรรมชาติ”
“ในงานศิลปะของเอเชีย อย่างจีน เรามักเห็นภาพภูเขาขนาดใหญ่ที่มีคนตัวเล็ก ๆ หรือบางภาพไม่มีคนเลย มันเป็นการสะท้อนความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่เหนือกว่ามนุษย์ เรา selfless ไปเลย ตัวเราหายไปชั่วคราว ซึ่งผมว่ามันเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราถ่อมตัว จริง ๆ ผมก็เป็นคนปกตินะ แต่พออยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ผมรู้สึกตัวเล็กลง มันส่งอิทธิพลให้ผมทำงานแนวภูมิทัศน์ที่เน้นธรรมชาติ แต่บางครั้งก็มีองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น ต้นไม้ หรือแม้แต่คน”
“บางคนบอกว่าผมเป็นธรรมชาตินิยม (Naturalism) แต่ว่าผมไม่ได้มองตัวเองแบบนั้น แต่มันก็อาจจะมีความคล้ายกันบ้าง ผมไม่ได้ตั้งใจจะนิยามตัวเองแบบนั้น แต่พอถอยออกมาดู มันก็มีอะไรที่ใหญ่กว่าเราจริง ๆ เช่น ปัญหาฝุ่น P.M.2.5 ที่มันเกินกว่าที่เราจะควบคุมได้ รู้สึกเหมือนธรรมชาติกำลังเอาคืน”
ภูติ ผี และจิตวิญญาณ เหล่าความเชื่อมาทีหลังแต่แยกไม่ขาดจากธรรมชาติในงานของนพนันท์
ก่อนที่เราจะมีโอกาสได้พูดคุยนพนันท์ สิ่งที่เราสงสัยมาตลอดเมื่อมองงานของเขา คือวิธีการที่เขาแทรกซึมเรื่องจิตวิญญาณ ความทรงจำ และเซนส์ความเป็นผีลงไป ทั้งในงานที่เขาเคยวาดลงในม่านลิเกของพี่เจ้ย และงานอื่น ๆ ของเขาในเวลาต่อมา เพราะเรารู้สึกได้ว่างานเขามีความหมายที่ลึกซึ้งอยู่มากในเรื่องนี้ และเป็นมากกว่าภาพธรรมชาติสะท้อนความจริง
นพนันท์พูดติดตลกกับเราว่า “ผมว่าที่พี่เจ้ยเลือกงานผมไป อาจจะเป็นเพราะงานผมมันเต็มไปด้วยเรื่องพวกนี้ล่ะมั้งครับ (หัวเราะ)”
“จริง ๆ แล้ว เรื่องจิตวิญญาณมันมาทีหลังเรื่องธรรมชาติครับ มันเป็นองค์ความรู้ที่ผมสนใจและไปค้นคว้าเพิ่มเติม มันสนุกสำหรับผมนะ”
“ผมอยากเล่าถึงเนินพระงาม ที่จังหวัดนครปฐม สถานที่แรกที่เชื่อมโยงผม ธรรมชาติ และเรื่องภูติผีจิตวิญญาณเข้าด้วยกัน ที่นั่นเคยมีความสำคัญทางศาสนา เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมมาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ธรรมชาติก็เข้ามาแทนที่ นี่เป็นสิ่งที่เราเห็นได้จากโบราณสถานต่าง ๆ รวมถึงวัดหลายแห่ง มันเป็นกระบวนการที่ธรรมชาติกลับมาเทคโอเวอร์อย่างแท้จริง”
“สำหรับอยุธยา ผมมองว่าที่นี่ไม่ใช่แค่ศูนย์กลางของพุทธศาสนา แต่มันยังมีมิติทางความเชื่ออื่น ๆ ด้วย ถ้าใช้คำของอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ ท่านจะบอกว่าศาสนาไทยมีสามส่วนคือ พุทธ พราหมณ์ และผี ซึ่งเรื่องผีเป็นส่วนสำคัญที่อยู่ร่วมกับความเชื่อหลักมาตลอด นี่เป็นสิ่งที่คนทั่วไปอาจไม่ได้พูดถึงมากนัก แต่สำหรับผม มันคืออีกด้านหนึ่งของอยุธยาที่ควรค่าแก่การสำรวจ
“สำหรับผม คนที่ผมเขียนไม่ใช่ใครคนหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ต้นไม้ก็เช่นกัน ผมมองว่ามันมีค่าความเป็นกลางอยู่แล้ว มันไม่ได้ดีหรือเลวโดยตัวมันเอง แต่ความหมายของมันเปลี่ยนไปตามเรื่องราวที่ถูกสื่อออกมา เช่น ผีนางตานี หรือเจ้าแม่ตะเคียน เป็นสิ่งที่เข้ามาประกอบกับต้นไม้ ไม่ใช่ว่าต้นไม้มีคุณลักษณะนั้นโดยตัวเอง”
“เวลาเราไปเดินป่า หรือกอดต้นไม้ เรามักรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อย ได้เยียวยาอะไรบางอย่าง และผมรู้สึกว่าต้นไม้สามารถรับพลังงานนั้นไปได้ เพราะมันมีพลังที่เป็นกลาง และมากกว่าเราด้วยซ้ำ”
Spirit of the Land — Part II กับการนำเสนอร่วมกับทัวร์ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ที่ทำให้ทุกคนอินแบบถึงเครื่องกว่าเดิม
มาถึงคิวของการพูดคุยกับพี่โบว์ - พัทธมน นิศาบดี ผู้ทำให้เกิด ‘ทัวร์’ อันเป็นไฮไลต์สำคัญของนิทรรศการ Spirit of the Land — Part II ครั้งนี้ ที่ไม่ใช่แค่ทัวร์เพื่อชมศิลปะ แต่ยังพาเราไปพบกับพื้นที่จริง ประวัติศาสตร์จริง และยังเชื่อมโยงมาถึงนิทรรศการได้จริง ๆ แบบอินกว่าเดิม ซึ่งพี่โบว์ก็เล่าถึงเบื้องหลังการทำงานให้ฟังว่า “จริง ๆ แล้วอันนี้เป็นเหมือนซีรีส์ของสารัตถะ เพราะโบว์มองว่าการทำงานศิลปะมันเป็นกระบวนการที่เกี่ยวกับการเดินทางอยู่แล้ว บางครั้งทางที่ดูเหมือนตรงที่สุด อาจจะไม่ใช่เส้นทางที่เหมาะที่สุด”
“หนึ่งในเหตุผลที่เลือกอยุธยาก็เพราะอยากพาผลงานศิลปะออกไปสู่บริบทใหม่ ๆ ศิลปะไม่ได้ดำรงอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง แต่มันมีแรงบันดาลใจ มีสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดงานขึ้นมา และโบว์คิดว่าการเดินทางเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการนำเสนอแรงบันดาลใจเหล่านั้น”
“อีกเหตุผลหนึ่งคือ ส่วนตัวโบว์ชอบเดินทางมาก เพราะมันเปิดโลก แล้วศิลปะก็เป็นสิ่งที่ช่วยเปิดโลกเหมือนกัน โบว์เลยอยากแบ่งปันสิ่งนี้กับทุกคน อยุธยาเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก เราเลยคิดว่าถ้าจะเริ่มจากทริปเล็ก ๆ ก็น่าจะเหมาะ แถมอยุธยายังมีความ timeless มาเมื่อไหร่ก็ให้ความรู้สึกต่างออกไปทุกครั้ง”
“ในโปรเจกต์นี้ เราได้ร่วมงานกับ ปอม นพนันท์ ซึ่งเป็นศิลปินที่สนใจวาดภาพธรรมชาติและภูมิทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับโบราณสถาน จริง ๆ ปอมสนใจเรื่องนี้มานานแล้ว เก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจมาตั้งแต่เชียงแสน ทวารวดี เชียงราย บ้านเกิดของเขา จนมาถึงอยุธยาและนครปฐม การทำงานกับปอมสนุกมาก เพราะมันเป็นกระบวนการที่ค่อย ๆ พัฒนา ไม่ใช่ว่าเราตั้งต้นมาด้วยไอเดียที่ชัดเจนแล้วจะออกมาเป็นทริปเลย แต่เราพูดคุยปรึกษากันไปเรื่อย ๆ ปอมเองก็เดินทางมาสเก็ตช์หน้างานหลายครั้ง เพราะการได้อยู่กับสถานที่จริงมันทำให้งานศิลปะมีมิติอีกแบบ”
“นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมงานกับอาจารย์ศิริพจน์ ซึ่งเป็นนักวิชาการด้านศาสนาพราหมณ์ ความเชื่อ และประวัติศาสตร์ อาจารย์ท่านนี้ได้รับการแนะนำจาก พี่คิว ซึ่งเรารู้จักกันจากทริปก่อน ๆ สิ่งที่น่าสนใจคือ ปอมไม่ได้วาดแลนด์สเคปแบบตรงไปตรงมา แต่มักจะถ่ายทอดสิ่งที่มองไม่เห็น อารมณ์ พลังงาน หรือมิติที่ลึกกว่าภูมิทัศน์จริง ๆ พอจับคู่กับเนื้อหาของอาจารย์ศิริพจน์ มันเลยเป็นการร่วมมือกันระหว่างศิลปะกับความรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
พี่โบว์ยังทิ้งท้ายไว้อีกว่า “เรามองว่านิทรรศการอย่างเดียวอาจไม่สามารถถ่ายทอดแนวคิดหรือกระบวนการทำงานของเราได้ทั้งหมด เราเลยรู้สึกว่าการจัดทัวร์ น่าจะเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ดีที่สุด เพราะมันทำให้คนไม่ใช่แค่รับชมงาน แต่ได้เดินทางไปสัมผัสบริบทของมันจริง ๆ พอเราจัดทริป เราเลยเชิญคนที่มีความรู้มาช่วยให้เราเข้าใจความเชื่อ วัฒนธรรม และความเชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบันของพื้นที่มากขึ้น ทั้งหมดนี้เลยกลายเป็นที่มาของโปรเจกต์พาทัวร์ของสารัตถะ ที่จะพาทุกคนออกจากกรุงเทพฯ และสร้างประสบการณ์ที่กว้างขึ้นสำหรับทั้งศิลปินและผู้ชม”
นิทรรศการ Spirit of the Land — Part II ยังคงจัดแสดงที่ โรงแรม ศาลา อยุธยา สามารถตามไปชมผลงานของ ปอม - นพนันท์ ทันนารี พร้อมตามรอยสถานที่จริงด้วยตัวเองได้ ตั้งแต่วันนี้ - 31 มี.ค. 2568
หรือถ้าใครอยากสัมผัสประสบการณ์ทัวร์ศิลปะสไตล์สารัตถะด้วยตัวเอง ล่าสุด พวกเขาก็เตรียมเปิดตัวทัวร์ครั้งใหม่ ก็สามารถไปรอติดตามรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่เพจ Saratta - สารัตถะ กันได้เลย
Spirit of the Land — Part II
โรงแรม ศาลา อยุธยา โดย สารัตถะ
ตั้งแต่วันนี้ - 31 มี.ค. 2568