หากใครเป็นสายแต่งบ้านที่หลงรักการช้อปเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านมากกว่าการช้อปเสื้อผ้าออนไลน์ คงจะรู้จักกับ HAY แบรนด์เฟอร์นิเจอร์จากเดนมาร์กเป็นอย่างดี ทั้งราคาระดับมิตรภาพเริ่มต้นหลักร้อย ที่มาพร้อมกับสีสันและความสดใสในดีไซน์ของตกแต่งบ้านชิ้นกระจุกกระจิก ทำให้แบรนด์ของผู้ก่อตั้งอย่าง เมตเต้ เฮย์ (Mette Hay) ครองใจสายแต่งบ้านมาจนถึงวันนี้
และเช่นเดียวกับที่ HAY ครองใจ อ๋อง–วีกฤษฏิ์ พลาฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ NORSE Republics (นอร์ส รีพับบลิค) ผู้นำเข้าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และงานดีไซน์สไตล์สแกนดิเนเวีย ที่เล่าให้เราฟังในงานครบรอบ 10 ปีของ NORSE Republics ว่า HAY คือแบรนด์โปรดของเขา และเป็นแบรนด์แรกที่เขาตัดสินใจติดต่อไปเพื่อที่จะนำงานดีไซน์เข้ามาให้คนไทยได้ใกล้ชิดมากขึ้น
“ผมเติบโตมากับบ้านที่ทำธุรกิจอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ เลยตั้งเป้าว่า เรียนจบจะกลับมาช่วยงานที่บ้าน เลยเลือกเรียนวิศวกรรม พอจบมาลองทำอยู่ประมาณสองปีก็รู้เลยว่าไม่ใช่แนว เลยตัดสินใจไปเรียนต่อด้าน Industrial Design ที่อิตาลี ซึ่งถ้าถามว่า ผมชอบหรือคลุกคลีกับเฟอร์นิเจอร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็น่าจะเป็นตอนเด็ก เพราะผมวาดรูปเยอะมาก หนังสือเรียนของผมจะเต็มไปด้วยรูปวาดเก้าอี้ โต๊ะ รถ ซึ่งเรารู้นะว่าเราชอบ แต่ไม่เคยคิดไปถึงขั้นว่าต้องทำมันเป็นอาชีพ”
อ๋องใช้เวลาเรียนดีไซน์อยู่สี่ปี ก่อนจะกลับมาไทยและหาสิ่งที่อยากจะทำจริงจัง “กลับมาตอนนั้นคิดอยู่สองอย่างคือ อยากลองออกแบบคอลเลกชันของตัวเอง แต่คิดไปมาเรื่องปัจจัยและกระบวนการผลิตมันเยอะ เลยเบนเข็มมาตัวเลือกที่สองก็คือ การเอาของที่ตัวเองชอบเข้ามาแนะนำให้คนไทยได้รู้จัก ก็เลยเริ่มติดต่อมองหาแบรนด์ที่ชอบ ซึ่งแบรนด์แรกก็คือ HAY ตอนนั้นรู้สึกโชคดีมาก เราติดต่อ Director เขาผ่านอีเมลไปวันพุธ เขาตอบกลับมาวันพฤหัส วันศุกร์นัดกันที่ล็อบบี้โรงแรมนึง ตื่นเต้นมากเพราะเราไม่มีพื้นฐานการทำธุรกิจ ไม่มีประสบการณ์ด้วย จำได้ว่า ตอนนั้นคุยกันยาวสี่ชั่วโมง จนหลังจากนั้นหนึ่งปีก็ได้เอา HAY เข้ามาเปิดเป็นป๊อบอัปสโตร์ที่สยามเซ็นเตอร์ในปี 2015 พอย้อนกลับไปถามทีม HAY ตอนนั้นเขาบอกผมว่า เขาเห็นแววตา แพสชัน และความชอบในแบรนด์ของผมจริง ๆ เลยตัดสินใจร่วมงานกัน”
หลังจากนั้นสามเดือน HAY Thailand เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ทำให้อ๋องได้มีโอกาสขยับขยายย้ายร้าน HAY ไปสู่พื้นที่ในสยามดิสคัฟเวอรี และเมื่อทุกอย่างเริ่มนิ่ง ในส่วนของการขยับขยายแบรนด์ อ๋องก็ยังคงมองหาแบรนด์อื่น ๆ เพิ่มความหลงใหลในเฟอร์นิเจอร์สไตล์สแกนดิเนเวีย “ผมไม่สามารถขายของที่ผมไม่ชอบได้ ฉะนั้น เราจะเลือกแต่แบรนด์ที่เราชอบและมั่นใจที่จะเล่าหรือนำเสนอออกไป ทุกแบรนด์ที่เราเลือกมีคาแรกเตอร์ที่ไม่เหมือนกันเลยสักแบรนด์ วิธีการเลือกของเราคือจะไม่เอาแบรนด์ที่เหมือนหรือคล้ายกัน เพราะสุดท้ายเรามองว่า แบรนด์จะแข่งกันเอง แล้วมันจะไม่มีแบรนด์ไหนที่ประสบความสำเร็จในแง่การขาย อย่างแบรนด์ที่เราเลือกกลุ่มลูกค้าก็ต่างกัน เรามองว่า แต่ละแบรนด์จะต้องมีจุดขายของตัวเอง”
“อย่างทุกวันนี้เราเป็นพาร์ทเนอร์ที่ยังคงทำงานร่วมกันแบรนด์เฟอร์นิเจอร์มาแบบยาวนานมาก ๆ อย่าง HAY และแบรนด์อื่น ๆ ก็ยังคงอยู่กับเรา สิ่งนี้มันทำให้เราภูมิใจครับ เชื่อไหมว่า ทุกวันนี้ผมเจอทีม HAY ผมขอบคุณเขาตลอดนะ เพราะถ้าไม่มีเขาในวันนั้นก็ไม่มีเราวันนี้เหมือนกัน เขาทำให้เราได้มีประสบการณ์ มีความน่าเชื่อถือ ทำให้แบรนด์อื่นอยากร่วมงานกับเราอันนี้มีส่วนมาก ๆ”
จากการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์ HAY ในวันแรก ตอนนี้ NORSE Republics นำเข้าเฟอร์นิเจอร์กว่า 15 แบรนด์แล้ว อาทิ HAY, Fritz Hansen, Vitra, Artek, Gubi, &Tradition, Verpan และอีกมากมาย ถ้าใครสนใจ ลองเปิดเข้าไปท่องเว็บไซต์ NORSE Republics ดูได้ เหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์รวมเฟอร์นิเจอร์ตัวแรร์เลย
ทุกแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ NORSE Republics อ๋องเป็นคนเลือกมากับสายตาตัวเองทุกแบรนด์ 99.99 เปอร์เซนต์คือความชอบ เขาเลยถ่ายทอดความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์และหาความแตกต่างของสิ่งที่เลือกเข้ามาได้เป็นอย่างดี “ผมรู้สึกว่า ผมชอบทุกอย่างเกี่ยวกับงานดีไซน์ ยกเว้นเรื่องการขาย ผมรู้ตัวว่า ไม่ใช่นักขายที่ดี ขายไม่เก่ง แต่สิ่งที่ผมชอบก็คือ สิ่งเหล่านั้นจะต้องเป็นของที่มีเรื่องราว เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกมาอาจจะไม่ได้ประทับใจเพราะสวยหรือมันนั่งได้ดีอย่างเดียว แต่มันต้องมีเรื่องราว มันเลยเป็นจุดที่เรารู้สึกว่า เราอยากจะถ่ายทอดสิ่งที่เราชอบไปให้คนอื่นต่อ จนคนเข้าใจว่าผมขายเก่ง แต่จริง ๆ แล้วผมไม่ได้ขายนะ ผมแค่เล่า เราเล่าเรื่องจนคนชอบในเรื่องราวของสิ่งที่เราขาย กลายเป็นเหมือนเราขายไปโดยปริยาย (หัวเราะ)”
“อย่างทุกวันนี้เรานำเข้าเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านรวม 15 แบรนด์แล้ว สำหรับความยากของธุรกิจนี้ ผมคิดว่า มันเป็นเรื่องการสื่อสารมากกว่า เราจะสื่อสารยังไงให้ภาพที่เรามองแบรนด์นั้นตรงกับภาพที่ลูกค้ามองผมว่ายาก เราเลยต้องพยายามทำให้มันเข้าถึงกลุ่มคนให้ได้มากที่สุด พยายามทำอีเวนต์ คอลแลบกับแบรนด์อื่น ๆ เพื่อให้งานดีไซน์มันไปถึงคนได้มากที่สุด และสุดท้ายตัวงานดีไซน์พวกนี้ก็จะคัดคนแต่ละแบบเข้ามา”
มากกว่าการยืนระยะยาวของ NORSE Republics สำหรับการครบรอบ 10 ปี อ๋องพยายามนำความเป็นไลฟ์สไตล์เข้ามาสู่งานดีไซน์เพื่อให้คนทุกกลุ่มช่วงวัยเข้าใจงานออกแบบง่ายมากขึ้น การฉลองครบรอบปีที่ 10 ในครั้งนี้ ทำให้เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงและอะไรใหม่ ๆ จาก NORSE Republics ทั้งการปรับโฉมใหม่ของ NORSE Store ที่สุขุมวิท 49 เพิ่ม Book Corner ที่เลือกหนังสือประเภทงานดีไซน์ที่เน้นรูปภาพเข้าใจง่าย การจับมือกับ O.B.A. แบรนด์เครื่องหอมสัญชาติไทย สร้างสรรค์น้ำหอมกลิ่น ROSEN สำหรับใช้ภายในบ้านซึ่งจะเป็นกลิ่นเฉพาะของ NORSE Republics และชวน BHBH (Bloody Hell Big Head) หรือ เบนซ์ – ธนวัต ศักดาวิษรักษ์ ศิลปินนัดวาดภาพประกอบมาร่วมออกแบบคอลเลกชันลิมิเต็ดอิดิชันลายพิเศษสำหรับการครบรอบ 10 ปี ส่วนไฮไลต์สุดท้ายที่ไม่ควรพลาดเวลาแวะมาที่ NORSE Store ก็คือนิทรรศการที่อ๋องนำเฟอร์นิเจอร์ของ ฌอง พรูเว่ (Jean Prouvé) มาจัดแสดงบนชั้นสองของ NORSE Store
“เราพยายามรวมทุกอย่างที่เป็นไลฟ์สไตล์เข้ามา อย่างการคอลแลบกับแบรนด์หรือศิลปินไทยก็เป็นสิ่งที่เราตั้งใจ งานของคุณเบนซ์ BHBH เราชอบสไตล์งานเขามาก มันเหมือนแบบเป็นคนที่ชอบอะไรเหมือนกัน เคมีตรงกัน เข้าใจงานออกแบบเหมือนกัน มันเลยร่วมงานกันง่าย และถึงเราจะเป็นตัวแทนนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จากต่างประเทศก็จริง แต่หัวใจเราไทยนะ ผมชอบความเป็นไทย เป้าหมายของเราคือเราอยากร่วมงานกับศิลปินไทยในการทำสิ่งต่าง ๆ ออกมาที่อาจจะไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ อาจจะทำสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ งานที่เป็นงานฝีมือ พัฒนาขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์ เคยคุยกับคุณปุ๊ก–จงกล (ภรรยา) เหมือนกันว่า ถ้าเราเอางานของศิลปินไทยไปเมืองนอกได้ก็คงจะดี มันเป็นเหมือนมิชชันในอนาคตครับ”
“ส่วนที่ผมอยากนำเสนอมาก ๆ ก็คือนิทรรศการของฌอง พรูเว่ เขาเป็นเหมือนดีไซเนอร์ในดวงใจของผม งานนี้เหมือนเป็นครั้งแรกใน Southeast Asian เลยก็ได้นะที่มีนิทรรศการของเขา มันสำคัญกับงานดีไซน์ และสำคัญกับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ งานนี้เหมือนชวนให้ทุกคนได้มาเรียนรู้ ซึ่งกว่าจะได้จัดนิทรรศการนี้จริง ๆ มันผ่านขั้นตอนมาเยอะมาก เราขอไปทาง Vitra แล้วเขาก็ต้องช่วยเราประสานต่ออีกกว่าจะมาเป็นนิทรรศการเล็ก ๆ บนชั้นสองที่ให้ทุกคนได้ดู มันเลยรู้สึกอิ่มใจที่ได้ทำ”
“ผมคิดว่างานดีไซน์มันเป็นอะไรที่ใกล้ตัวมาก แทบจะอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคนเลย อย่าคิดว่า แบบฉันไม่ใช่ดีไซเนอร์ฉันคงเข้าถึงงานดีไซน์ได้ยาก อยากให้มองว่างานพวกนี้มันสามารถเอาไปเป็นแรงบันดาลใจได้ แต่งบ้านให้สวยขึ้นได้ ผมคิดว่า การที่เรามีของที่ชอบหรืออินมาก ๆ อยู่ใกล้ตัว มันจะทำให้เรามี Positive Energy ได้เลยนะ”
ในฐานะผู้ก่อตั้ง NORSE Republics ที่ต้องรับมือทั้งในพาร์ทของการขาย (ที่ถึงอ๋องจะออกตัวว่าขายไม่เก่ง) คู่ไปกับการรักษามาตรฐานของแบรนด์ให้อยู่มาจนเข้าปีที่สิบ ต้องยอมรับว่า อ๋องทำเกินคาดและพาแบรนด์มาไกลมาก ๆ แต่ถ้าในสมการนี้มีเรื่องแพสชัน ความชอบ และความรักในงานดีไซน์ เราอาจจะพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า ต้องยกเครดิตให้พาร์ทนี้ของอ๋องมากกว่า เพราะตั้งแต่ที่เขาเริ่มเล่าให้ฟังจนเกือบจบคำถามสุดท้าย สิ่งที่เราสัมผัสได้คือความหลงใหลในงานดีไซน์ของเขา ซึ่งแน่นอนว่า สิ่งเหล่านั้นเองทำให้เขาเป็นนักเล่าเรื่องที่ดี ที่พา NORSE Republics เดินทางมาถึงปีที่ 10 และเชื่อว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ 11 ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมอย่างแน่นอน




