“เราไม่ได้แค่มาขายสินค้า เรามามอบประสบการณ์พิเศษ” คุยกับ POP MART ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสิงคโปร์ กับนิทรรศการพิเศษของ SKULLPANDA ที่นี่

Post on 19 December 2025

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) เป็นแลนด์มาร์กแห่งสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิกแสนงดงามจากยุคอาณานิคม ส่วน SKULLPANDA คือคาแรกเตอร์ตากลมโตแสนจะน่ารักที่มักอยู่ในชั้นสะสมของวัยรุ่น “นักจุ่ม” กล่องสุ่มอาร์ตทอย… ในวันนี้โถงทางเข้าสุดเคร่งขรึมซึ่งบรรจุความทรงจำร่วมแห่งชาติสิงคโปร์ กำลังฉายภาพแห่งอนาคต ภาพเขาวงกตแห่งการเดินทางภายในจิตใจ และวัตถุทรงกลมดูล้ำสมัย… ถ้าไม่เรียกว่านี่คือการโคจรมาเจอกันแห่งยุคก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอย่างไรแล้ว…

นี่คือ "SKULLPANDA CAGE-UNCAGE" นิทรรศการพา “สองโลกศิลปะ” มาพบปะกัน ด้านหนึ่งคือมรดกทางวัฒนธรรมของพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ อีกด้านคือพลังศิลปะร่วมสมัยของ POP MART ยักษ์ใหญ่ด้านความบันเทิงจากจีนที่นำเสนอ “ของเล่น” จากนักออกแบบ ให้กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก

สำหรับ Kevin Zhang หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรแบรนด์และการจัดการกิจกรรม (Head of Brand Partnerships and Activations) ของ POP MART APAC ปรากฎการณ์การแลกเปลี่ยนกันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มันคือความตั้งใจและวิสัยทัศน์ทางศิลปะของพวกเขา

"เดิมทีทั่วไป ผู้คนมักรู้สึกว่าของเล่นก็เป็นแค่ของเล่น" Kevin กล่าว "แต่สำหรับ POP MART และสำหรับศิลปินแล้ว Art Toy ไม่ใช่แค่ของเล่น มันคือรูปแบบหนึ่งของงานศิลปะ" และเขาแสดงให้เราเห็นตลอดบทสนทนาสุดพิเศษนี้ และในนิทรรศการระดับปรากฏการณ์ของพวกเขา

นี่เป็น "ครั้งแรก" ที่สำคัญ ของแบรนด์ซึ่งโด่งดังจากประสบการณ์ความตื่นเต้นของ “กล่องสุ่ม” (blind box) ที่เราซื้อกล่องลับของพวกเขาโดยไม่รู้ว่าจะได้ฟิกเกอร์แบบไหน แต่ที่นี่ POP MART อาจชวนให้ผู้ชมทำสิ่งที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง คือหยุดการไขว่คว้าน่าตื่นเต้น และมาค่อย ๆ สร้างประสบการณ์แห่งการไตร่ตรอง

The Key: กุญแจแห่งการเดินทาง

เส้นทางผจญภัยในนิทรรศการที่มีทั้งหมด 6 ส่วนนี้ เริ่มต้นที่ห้อง The Key ซึ่งผู้เข้าชมไม่ได้แค่เดินเข้าไปเฉย ๆ แต่จะได้มองผ่านรูกุญแจ ซึ่งในนั้น ปริซึมสิบด้านของกระจกจะสะท้อนภาพกุญแจให้แตกกระจายออกมา เป็นภาพลวงตาที่พร่าเลือนเส้นแบ่งความเป็นจริงกับความเป็นไปได้… ถ้าเราเริ่มรู้สึกสับสน… ก็เพราะเขาออกแบบมาอย่างนั้น

สำหรับ Kevin โซนนี้อาจสื่อถึงเส้นแบ่งทางความคิดที่แบรนด์กำลังก้าวข้าม "กรง" (Cage) ของตัวเองคู่ขนานไปกับการเดินทางของเจ้า SKULLPANDA ด้วยก็ได้

“SKULLPANDA เป็น IP (ทรัพย์สินทางปัญญา-คาแร็กเตอร์) ที่มีเอกลักษณ์มาก —ไม่ใช่แค่เรื่องผลตอบรับในตลาดนะ— แต่มันพยายามสำรวจมุมมองแห่งอนาคตของชีวิตและจักรวาล ศิลปิน (Xiong Miao) มีมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์มากต่อชีวิตและสิ่งรอบตัวเธอ เราสามารถจัดนิทรรศการที่เหมาะสมนี้ได้ด้วยเนื้อหาเบื้องหลังและแรงบันดาลใจจากเธอเลย”

“เราต้องการนำเสนอประสบการณ์ศิลปะระดับพรีเมียม ไม่ใช่แค่ร้านป๊อปอัพธรรมดา เราจึงรู้สึกว่าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสิงคโปร์เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุด”

"ถ้าถามถึงกรงที่เราติดอยู่ แน่นอนว่ามันมีทั้งกรงที่จับต้องได้อย่างพื้นที่กายภาพ และก็มีเรื่องมุมมองทางวัฒนธรรม" Kevin อธิบาย "เรา(สิงคโปร์และจีน)อยู่ในตลาดที่แตกต่างกันและเผชิญหน้ากับแฟนๆ ที่แตกต่างกัน แต่เรารู้สึกว่าคุณค่าบางอย่างเป็นสากล ในแง่นั้น เราได้ทำลาย 'กรง' ใดๆ ก็ตามที่เราติดอยู่แล้ว ด้วยการนำนิทรรศการศิลปะที่เหมาะสมจากเซี่ยงไฮ้มาสู่สิงคโปร์"

“เราชื่นชมความพยายามทางศิลปะที่ศิลปินทุ่มเทให้กับนิทรรศการนี้มาก ๆ เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่สามารถนำเสนอบางสิ่งที่มาจากผลิตภัณฑ์แมสซึ่งเข้าถึงง่ายกับผู้คนผ่านช่องทางจัดจำหน่าย ให้เข้ามาอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบ “ศิลปะชั้นสูงที่จริงจัง”

“ถ้าคุณเดินชมนิทรรศการ ผมว่าคุณจะรู้สึกถึงความเป็นสากลของศิลปะ คุณจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างมากนักระหว่างองค์ประกอบของงานศิลปะ การออกแบบ ประสบการณ์การดำดิ่ง และสินค้า เราจะเห็นการพบกันได้เลยระหว่างวัฒนธรรมป๊อป ศิลปะร่วมสมัย และศิลปะชั้นสูง — นั่นคือเป้าหมายของเรา เราไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อขายสินค้า เรามาที่นี่เพื่อมอบประสบการณ์พิเศษ เราหวังว่าผู้เข้าชมจะชื่นชมความพยายามและค้นพบวิธีตีความของตัวเองผ่านการเดินชมส่วนต่างๆ ใน พื้นที่แห่งนี้”

Exploration: ให้ใจ “สุ่ม” เจอสิ่งสำคัญ

ในโซน Emotion (อารมณ์) แสงและเงาที่เล่นกับวัตถุทรงกลมทำให้เราตั้งคำถามต่อการรับรู้ความเป็นจริง ในโซน Fortune (โชคชะตา) เราถูกรายล้อมไปด้วยคริสตัลและกระจกที่แพรวพราว พาเราให้เห็นสองใบหน้าของความมั่งคั่ง ว่ามันเป็นทั้งกรงขังและแสงสว่าง

แนวคิดของ Xiong Miao แตกต่างจากนักออกแบบของเล่นทั่วไปที่เน้นความน่ารักหรือความสนุกสนาน เธอสร้างสรรค์ผลงานด้วยสัญญะและปรัชญาที่มืดหม่น ตัวละคร SKULLPANDA ของเธอถูกอธิบายว่าดูคล้ายสุนทรียศาสตร์แบบดิสโทเปีย แต่นั่นอาจเป็นสาเหตุที่เขาพาเราไปสำรวจตัวตนได้อย่างลึกซึ้ง

ในโซน Rules (กฎเกณฑ์) ลูกข่างขนาดใหญ่จะหมุนไปเรื่อย ๆ และตาชั่งที่เอนเอียงหมิ่นเหม่ สำรวจเรื่องแรงโน้มถ่วงและระเบียบวินัย ชวนนึกย้อนไปถึงสิ่งที่ Kevin เล่า ว่า POP MART อาจมาเพื่อสร้างสมดุลระหว่างฝั่งตลาดแมส โดยเป็นที่ยอมรับจากโลกศิลปะไปด้วย

การเดินทางเข้มข้นจนถึงที่สุดที่โซน Exploration (การสำรวจ) ซึ่งผู้ชมจะได้ก้าวเข้าสู่ “กรง” และจัดวาง “ภาพ” ใหม่ ในบล็อกที่เล่นได้ เพื่อสร้างสัญลักษณ์แห่งความหมายด้วยตัวเอง…

“ถึงกลไกกล่องสุ่มจะเป็นสิ่งที่ทำให้ POP MART มีชื่อเสียง แต่เราหวังว่าในนิทรรศการนี้ ผู้เข้าชมจะลืมเรื่องกล่องสุ่มไปชั่วขณะ มาสัมผัสกับงานจัดวางส่วนต่างๆ ของนิทรรศการด้วยใจที่เปิดกว้างจริงๆ” เราถามเขาถึงภาพจำ —หรือเรียกว่าประสบการณ์อันเป็นที่จดจำของผู้คนต่อ POP MART อาจถูกต้องกว่า— “บางทีอาจมี “กล่องสุ่ม” สองสามกล่องที่กำลังถูกเปิดอยู่ภายในใจของผู้ชมก็ได้ แทนที่จะเป็นการแกะกล่องในมือ ผมคิดว่านั่นคือสิ่งสำคัญ”

The Room: การทลายพรมแดน

ภาพสะท้อนในกระจกบอกเราว่า ทางออกนั้นมีมากมายเหลือเกิน แต่แทบทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งลวงตา… เราจะหาเส้นทางเจอ ก็ต่อเมื่อได้ลองก้าวไปแล้วเท่านั้น

ที่บทสรุปของนิทรรศการนี้ในโซน The Room (ห้อง) ประติมากรรม SKULLPANDA สองชิ้นนั่งหันหลังชนกัน ล้อมรอบไปด้วยกระจกเงา —เรามองเห็นพวกเขาได้จากภายนอก แต่พวกเขามองกลับมาเห็นแต่ภาพสะท้อนของตนเอง— เกิดเป็นเขาวงกตแห่งการสะท้อนกลับไม่มีที่สิ้นสุด เรากลายเป็นทั้งผู้ชมและผู้ถูกจ้องมอง ติดอยู่ในความขัดแย้งระหว่างกรอบจำกัดและเสรีภาพ

และแม้จะเรียกว่าห้องสุดท้าย แต่เมื่อก้าวออกมา เราจะพบนิทรรศการพิเศษที่ออกแบบมาล้อกับวัฒนธรรมนกกรงที่ส่งเสียงร้องเป็นบทเพลงในประเทศสิงคโปร์

Kevin เปิดเผยว่าการ "มอบประสบการณ์ระดับพรีเมียม" ให้กับคาแรกเตอร์นี้เป็นส่วนสำคัญของแผนงานสำหรับภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกล่าวถึงตลาดเพื่อนบ้าน

"ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดหลักของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" Kevin กล่าว "เรากำลังดำเนินแคมเปญและร้านค้าที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศไทย... เราหวังว่าจะนำประสบการณ์ที่คล้ายกันมาสู่ประเทศไทยในอนาคตเพื่อเติมเต็มจิ๊กซอว์"

และเมื่อนั้นเอง คาแรกเตอร์ของพวกเขาก็อาจสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ทางวัฒนธรรมยิ่งขึ้นไปอีก

ออกกรง…

เมื่อก้าวออกจากแกลเลอรีกลับมายังสนามหญ้าด้านหน้าของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เราจะกลับมาพบประติมากรรม SKULLPANDA ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ ความแตกต่างระหว่างประวัติศาสตร์อาณานิคมและอนาคตของวัฒนธรรมป๊อปไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนการ “ปะทะ” กันอีกต่อไป แต่ฟังคล้ายบทสนทนาแล้วมากกว่า

"กรง" ที่ว่าของเล่นเป็นวัฒนธรรมระดับแมสและพิพิธภัณฑ์เป็นวัฒนธรรมชั้นสูงได้ถูกสั่นคลอน พื้นที่แห่งความทรงจำชาติกับพื้นที่แห่งศิลปะยอดฮิตในตลาดถูกควบรวมกันกลายเป็นพื้นที่ใหม่

"มีช่วงหนึ่งในการทำงาน ที่เราวางตำแหน่งของเราไว้ก่อน และทำงานด้วยกันเหมือนเป็นโปรเจกต์เดียวกัน" Kevin กล่าว สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างทีมสร้างสรรค์จากเซี่ยงไฮ้และเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์สิงคโปร์ "ถ้าคุณมองไปรอบๆ ผมเองก็รู้สึกว่าเนื้อหาผสมผสานกับอาคารมรดกได้อย่างราบรื่นมาก"

นิทรรศการ SKULLPANDA CAGE-UNCAGE Showcase การจัดแสดง SKULLPANDA ครั้งแรกในสิงคโปร์ เป็นการร่วมมือกันของสามพันธมิตร ได้แก่ POP MART, การท่องเที่ยวสิงคโปร์ (STB) และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสิงคโปร์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของความร่วมมือในลักษณะไตรภาคีนี้ ด้วยโปรแกรมของพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัย ความร่วมมือนี้มุ่งสำรวจงานฝีมือทางศิลปะและเรื่องราวที่มีความหมาย อันแฝงอยู่ในงานออกแบบของสะสมและวัฒนธรรม พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมเสน่ห์ของสิงคโปร์ในฐานะจุดหมายปลายทางที่นำเสนอประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น สำหรับผู้ชมที่นี่และผู้ชมต่างชาติ

นิทรรศการ: SKULLPANDA CAGE–UNCAGE Showcase
จัดที่: National Museum of Singapore (แกลเลอรี Stamford ชั้น 1 และ Gallery Theatre ชั้นใต้ดิน) ประเทศสิงคโปร์
ระยะเวลา: วันนี้ – 22 กุมภาพันธ์ 2026
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เพจ National Museum of Singapore