ประติมากรรมทองเหลืองที่ลอยตัวรวมกลุ่มอยู่กลางโถงพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA BANGKOK) เปล่งประกายระยิบระยับจนต้องหยุดมอง แต่เสน่ห์ของมันกลับเผยเต็มที่เมื่อเราเดินวนรอบผลงาน ชวนให้ครุ่นคิดถึง “พื้นที่” แรงงาน และการไหลเวียนของวัฒนธรรม เงื่อนไขที่ห้อมล้อมน้ำตาลและ “ขนมทองหยอด” อันเป็นต้นธารของรูปทรงในศิลปะชุดนี้ว่าซับซ้อนเพียงใด
“ประวัติศาสตร์ใหญ่ ๆ บางทีเริ่มต้นจากเรื่องเล็ก ๆ แค่ว่าเราไม่รู้จะเอาไข่แดงไปทำอะไร” อริญชย์ รุ่งแจ้ง กล่าวไว้ในวิดีโอแนะนำงาน ‘Golden Teardrop’ ผลงานที่เขาสร้างขึ้นครั้งแรกในเทศกาลศิลปะระดับโลก Venice Biennale ปี 2013 และนำกลับมาจัดแสดงอีกครั้ง พร้อมด้วยชิ้นงานใหม่ Golden Teardrop (2025) ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับที่นี่
อริญชย์คือศิลปินร่วมสมัยชาวไทยผู้บุกเบิกงานศิลปะแนวจัดวาง (Installation Art) และเคยร่วมสร้างสรรค์ผลงานบนเวทีศิลปะสำคัญระดับโลก ทั้ง Venice Biennale ครั้งที่ 55 และ documenta 14 ผลงานของเขามักผสานการค้นคว้าเข้มข้นและภาษาศิลปะที่งดงามลึกซึ้ง ถูกพูดถึงในฐานะการบอกเล่า “ประวัติศาสตร์เล็ก ๆ” (Micro-history) เรื่องราวของผู้คนตัวเล็กตัวน้อยที่มิได้ถูกจารึกอย่างเป็นทางการ หากแต่สะท้อนพลวัตของโลกภายใต้อาณานิคม ทุนนิยม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้อย่างเฉียบคม
จากแนวคิดที่เชื่อมโยงการค้าขายน้ำตาลยุคอาณานิคมกับการกำเนิด “ขนมไทย” คุ้นลิ้น เขาขยายบทสนทนาไปสู่ระบบทุนนิยมร่วมสมัย เพราะ “ศิลปะพูดแทนการเมืองไม่ได้ แต่ศิลปะและการเมืองช่วยกันพูดได้”
“โลกมีเทคโนโลยีใหม่ สารเคมีใหม่ อะไรก็ตามที่ใช้จัดการที่ดินและการผลิต ทำให้เกิดรูปแบบการสร้างและกระจายสินค้ารูปแบบใหม่ ปัจจุบันเรายังพูดถึงแรงงานทาสสมัยใหม่ แรงงานเทคโนโลยีที่ถูกบังคับให้เป็นสแกมเมอร์ เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการใช้พื้นที่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ปัญหาเหล่านี้ยังผุดขึ้นไม่หยุด”
ในบทสนทนานี้ อริญชย์ได้ย่อกระบวนการทำงานของเขาไว้ครบถ้วน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ไปจนถึงการเมืองที่ดำรงอยู่ก่อนที่เราเกิด และก่อรูปเป็นภาษาในงานศิลปะของเขา เช่น Void, Perspective และ Repetition
“ศิลปะไม่ใช่การทำซ้ำความจริงเท่านั้น แต่เป็นการช่วยให้มนุษย์เข้าใจความจริง ข้ามข้อจำกัดทางการรับรู้ของเรา เพราะเรามีม่านบางอย่างมาบดบังเสมอ เหมือนมองเส้นตรงใต้น้ำที่ดูบิดเบี้ยว ศิลปะพยายามเผยให้เห็นม่านนั้น”
เขายังชวนมองการทำซ้ำในผลงานรูปหยดว่า “ทำให้เรานับจำนวนได้ยาก การนับเกิดขึ้นได้เมื่อเรามองเห็นความต่างระหว่างสิ่งหนึ่งกับอีกสิ่งหนึ่ง เหมือนการนับแกะบนทุ่งหญ้า ถ้าเราไม่รู้ว่าแกะแต่ละตัวต่างกันอย่างไร เราก็จะนับจากช่องว่างระหว่างพวกมันแทน”
ในเรื่องความเป็นชาติ อริญชย์กล่าวว่า “ความเป็นชาติเกิดมาก่อนเรา คนรุ่นก่อนกำหนดข้อตกลงไว้แล้ว งานที่ดูไทยอาจเคยมีช่วงเวลาที่ไม่ใช่ไทยเลยก็ได้ ชาติคือข้อตกลงร่วมของสังคม และเราต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการตกลงนั้น ไม่ว่าจะผ่านศิลปะหรือวิธีอื่น ๆ ตัวงานเองไม่ได้เป็นตัวแทนความเป็นไทย แต่มันคือการผสมผสาน”
นิทรรศการ “Golden Teardrop (2025)” จัดแสดงวันนี้ ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2569 ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA BANGKOK)
น้ำตาลบอกอะไรเราเกี่ยวกับเศรษฐกิจ-วัฒนธรรมโลกได้บ้าง?
“เดิมที Golden Teardrop เริ่มต้นจากการศึกษาเรื่องน้ำตาล และความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกาใต้กับเอเชีย ซึ่งมีประวัติศาสตร์ของการปฏิวัติด้านเกษตรกรรมและเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์อยู่เบื้องหลัง สิ่งเหล่านี้ทำให้มนุษย์มีศักยภาพในการเพาะปลูกมากขึ้น จนเกิดความต้องการขยายพื้นที่เพาะปลูก ควบคู่ไปกับการจัดการพื้นที่และแรงงานมนุษย์ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจและการหมุนเวียนของวัฒนธรรม งานในเวนิสเบียนนาเล่ครั้งแรกจึงเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเวนิสและอยุธยาเข้าด้วยกัน
“เมื่อมาจัดแสดงที่ MOCA เราก็มองบริบทของพื้นที่ด้วย ซึ่งที่นี่มีรากมาจากอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามใหม่ว่าพื้นที่ที่จับต้องไม่ได้ในโลกของโทรคมนาคม เช่นคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ สามารถมีมูลค่า เป็นสินทรัพย์ หรือใช้ทำธุรกิจได้อย่างไร เทคโนโลยีเหล่านี้สร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับการค้า และเปลี่ยนแปลงรูปแบบชีวิตผู้คนอย่างไรบ้าง เหมือนกับที่การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเคยพลิกประวัติศาสตร์มนุษย์ในยุคก่อนหน้า
“เราไม่ได้ตั้งใจเจาะจงทำงานกับประวัติศาสตร์เล็ก ๆ เท่านั้น แต่มันเป็นคำถามที่อยู่ในตัวเรามาตั้งแต่เด็ก จากเรื่องพ่อที่ถูกทำร้ายขณะทำงานบนเรือของบริษัทเยอรมัน ทำให้สงสัยเสมอว่าอะไรเป็นต้นเหตุ เป็นแนวคิดแบบนาซี หรือเป็นเพียงเรื่องส่วนตัวระหว่างคนสองคน เพราะมนุษย์พยายามสร้างระบบสังคมและเศรษฐกิจขึ้นมาหลายรูปแบบ ทั้งฟาสซิสต์ นาซี สังคมนิยม ทุนนิยม และระบบเหล่านี้เปลี่ยนความคิดของผู้คนทั่วโลก รวมถึงกระทบชีวิตของคนตัวเล็กตัวน้อยเสมอ แต่บางครั้งเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ใหญ่ ๆ ก็อาจเกิดจากเหตุเล็ก ๆ เหมือนที่เราพูดไว้ในวิดีโอว่า บางทีทั้งหมดอาจเริ่มจากคำถามง่าย ๆ อย่างว่าเราไม่รู้จะเอาไข่แดงไปทำอะไร”
ศิลปะช่วยให้เราเข้าใจระบบเหล่านั้นได้อย่างไร?
“งานศิลปะไม่ใช่เพียงการผลิตซ้ำความเป็นจริงเท่านั้น แต่คือกระบวนการที่ช่วยให้มนุษย์เข้าใจความเป็นจริง และก้าวข้ามข้อจำกัดในการรับรู้ของตัวเอง เพราะเวลาที่เรามองเห็นสิ่งต่าง ๆ เรามักมีม่านบางอย่างบดบังอยู่เสมอ เหมือนการมองเส้นตรงที่จุ่มอยู่ใต้น้ำซึ่งดูเหมือนบิดเบี้ยว ศิลปะจึงทำหน้าที่ช่วยให้เราเข้าใจม่านที่หลอกตาเราอยู่นั้น”
“กระบวนการทางศิลปะประกอบด้วยการคิด การอ่าน และประสบการณ์ตรง ทั้งจากโลกภายนอกและจากการเรียนรู้เชิงทฤษฎี แต่สิ่งที่พี่ให้ความสำคัญที่สุดคือความสามารถในการคาดเดา หรือ intuition ที่มักเชื่อมโยงกับปัญญา มันไม่ใช่แค่ความรู้ หากแต่เป็นความสามารถในการตัดสินใจ รวมถึงการเข้าใจอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งเกิดจากการฝึกฝน เมื่อเราฝึกจนชำนาญ เราก็จะสามารถแสดงออกสิ่งเหล่านี้ผ่านงานศิลปะได้”
“ศิลปะพูดแทนการเมืองไม่ได้ แต่ศิลปะกับการเมืองช่วยกันพูดได้… ศิลปะเองก็มีระเบียบวิธีของตัวเองในการคิดและแสดงออก มีวิธีคิดและคำนวณช่องว่างแต่ละช่อง มีแนวคิดทางสุนทรียะ เรื่องมิติ หรือเรื่องพื้นที่และเวลา
“เวลาทำงานเราจะพยายามกลับไปหาจุดหนึ่งที่เป็นต้นเหตุของสิ่งต่าง ๆ เช่น เรื่องพรมแดน สมัยก่อนมันอาจอ้างอิงมาจากอุปสรรคทางภูมิศาสตร์ อย่างแม่น้ำ ภูเขา แต่พอผ่านไปมันมีเรื่องของวัฒนธรรมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ข้อตกลงมันก็หลากหลายมากขึ้น ว่าพรมแดนคืออะไร จุดอ้างอิงเดิมที่เราใช้มันก็หลุดไป กลายมาเป็นความหมายที่อิสระ และทำให้ปลุกระดมกันไป”
ช่วยอธิบายสุนทรียะในงานนี้หน่อย ใช้ Void, Perspective, และ Repetition มาช่วยคิดเรื่องประวัติศาสตร์อย่างไร
“ความว่างเปล่า (Void) ในประติมากรรมเกี่ยวข้องกับเวลา เวลาเกิดขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวรอบความว่างเปล่า เมื่อเราเดินไปรอบ ๆ Golden Teardrop เราจะเห็นช่องว่าง มิติต่าง ๆ ภายในงาน เห็นพื้นที่ที่เคลื่อนตัวไปพร้อมกับเรา และมุมมองของเราก็เปลี่ยนไปตลอดเวลา
“มิติมุมมอง (Perspective) เป็นแนวคิดที่เปลี่ยนคตินิยมทั้งในโลกตะวันตกและตะวันออก ภาพเขียนตะวันตกโบราณไม่ได้คำนึงถึงความสมจริง พระเจ้าหรือบุคคลสำคัญมักถูกวาดให้ใหญ่กว่าปกติ และมีการซ้อนตำแหน่งโดยไม่สนมุมมองจริง แต่การคิดเรื่องมิติลึก-ตื้น ทำให้มุมมองจากมนุษย์กลายเป็นตัวรับรู้หลัก ในขณะที่ศิลปะไทย เช่น ขรัวอินโข่ง ก็ผสมผสานคตินิยมพุทธโบราณเข้ากับมุมมองสมจริง ดังนั้นมิติจึงไม่ใช่แค่เทคนิคทางศิลปะ แต่ส่งผลต่อการรับรู้ของมนุษย์ และสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้
“ในแง่ของการทำซ้ำ (Repetition) งานนี้ทำให้การนับจำนวนหยดเป็นเรื่องยาก การนับเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราเห็นความแตกต่างระหว่างสิ่งหนึ่งกับสิ่งอื่น เช่น การนับแกะ 100 ตัวบนทุ่งหญ้า เราจะนับมันได้ก็ต่อเมื่อแต่ละตัวดูต่างกัน หากไม่คุ้นหน้าตาของมัน เราก็นับจากช่องว่างระหว่างมันบนพื้นที่นั้นแทน
“มิติมุมมอง ความเคลื่อนไหว และความว่างเปล่า เป็นวิธีการทางศิลปะที่ทำงานร่วมกับประวัติศาสตร์และบริบทเชิงวัฒนธรรม มันเผยให้เห็นความซับซ้อนของความเป็นจริงที่แฝงอยู่”
รูปทรงปลายแหลมและสีทองเงาใน Golden Teardrop ชวนให้นึกถึงความเป็นไทยมาก รวมทั้งบริบทสถานที่จัดแสดงทั้งในงานใหม่นี้และงานดั้งเดิม คุณมีแนวคิดเกี่ยวกับความเป็นไทยอย่างไร?
“ด้วยวัสดุอย่างทองเหลืองเอง เดิมทีถูกใช้ในงานศิลปะที่เกี่ยวกับกษัตริย์ พระเจ้า หรือชนชั้นนำตามแต่บริบท สร้างความแตกต่าง เป็นเอกลักษณ์ที่คนทั่วไปไม่สามารถเลียนแบบได้ แตกต่างจากงานศิลปะเชิงสังคมนิยมของศิลป พีระศรี ซึ่งใช้วัสดุธรรมดาไร้ราคาเพื่อสะท้อนชีวิตของคนธรรมดา และทำให้คนเข้าถึงงานศิลปะได้ในทางสาธารณะ คนทั่วไปถูกทำให้เหมือนกันหมด แต่ตัวงานของเราไม่ได้ตั้งใจถากถาง เราใช้วัสดุที่พิเศษและแตกต่างกับเรื่องธรรมดาสามัญ เพื่อสำรวจเชิงสุนทรียะว่าสิ่งต่าง ๆ ถูกใช้มาอย่างไร และเราจะใช้เพื่อตอบสนองแนวคิดของเราอย่างไร
“ความเป็นชาติมิได้เกิดจากตัวเราเพียงคนเดียว คนรุ่นก่อนคิดและกำหนดสิ่งเหล่านี้มาก่อนเรา งานศิลปะที่เราสร้างแล้วมีองค์ประกอบที่ทำให้เรารู้สึกว่า ‘ไทย’ อาจเคยมีช่วงเวลาที่มันไม่ใช่ไทยเลยก็ได้ ชาติคือข้อตกลงร่วมของสังคมที่เกิดขึ้นก่อนเรา เราเพียงอยากเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการตกลงนั้น ผ่านศิลปะหรือวิธีอื่น ๆ ตัวงานไม่ได้เป็นตัวแทนความเป็นไทย แต่มันสะท้อนความผสมผสานของหลายสิ่งหลายอย่างมากกว่า”
ประวัติศาสตร์การใช้เทคโนโลยีในอดีตบ่งบอกอะไรมาถึงปัจจุบันบ้าง
“ถึงแม้ทุนนิยมจะเกิดมาเป็น 200-300 ปีมาแล้ว แต่มันยังไม่จบ มันมีจุดเชื่อมต่ออยู่ได้เรื่อย ๆ โลกมีเทคโนโลยีใหม่ มีสารเคมี หรืออะไรก็แล้วแต่ มาจัดการกับที่ดิน กับการเกษตร แล้วทำให้เกิดการผลิตและการแพร่กระจายรูปแบบใหม่ ปัจจุบันก็มีการพูดถึงความเป็นทาสสมัยใหม่ แรงงานเทคโนโลยี ถูกบังคับให้ทำงานสแกมเมอร์ เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมกับการใช้พื้นที่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ปัญหาเหล่านี้ก็มีมาใหม่เรื่อย ๆ”




